สั่งประหารสาวใหญ่ ข้าราชการ ซี 5 กระทรวงการคลัง กับคนขับรถ ร่วมวางแผนจ้างมือปืนยิงสามีดับแค้นแอบมีกิ๊ก ให้การเป็นประโยชน์ศาลปรานีลดโทษเหลือคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1716/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นางจงดี บุญเส็ง อายุ 57 ปี ข้าราชการระดับ 5 กระทรวงการคลัง และ นายอำนาจ เหล่าเจริญ อายุ 57 ปี พนักงานขับรถยนต์ กระทรวงการคลัง เป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างเดือน มิ.ย.- 17 ก.ค.52 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันจ้างวานใช้ให้ นายประชา หรือ ชา เกษมโอภาส และ นายวิศรุต หรือ เต้ เรืองศักดิ์ ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนสั้นขนาด .22 มม.ยิง นายสมศักดิ์ บุญเส็ง อายุ 46 ปี สามีของจำเลยที่ 1 บริเวณศีรษะและลำตัวรวม 5 นัด จนถึงแก่ความตาย ขณะขับรถยนต์โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ษศ 4751 กทม.จอดติดไฟแดง บริเวณสามแยกพิชัย ถนนพิชัย แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กทม.ก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน สืบสวนสอบสวน จนทราบว่า จำเลยทั้งสองมีส่วนร่วม จึงจับกุมดำเนินคดี จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่เคยรู้จักกับนายประชา และนายวิศรุต
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า นายวิศรุต และ นายประชา ให้การกับพนักงานสอบสวน โดยมีรายละเอียดเป็นลำดับขั้นตอน ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุจนถึงหลังเกิดเหตุว่าได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 2 ในราคา 5 หมื่นบาท ให้ไปฆ่าผู้ตาย เนื่องจากจำเลยที่ 1 เกิดความหึงหวง และโกรธแค้นที่ผู้ตายมีนิสัยเจ้าชู้ ติดพันหญิงอื่นไม่กลับมาดูแลครอบครัวนานนับปี โดยก่อนหน้านี้ ยังรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 เคยให้นายวิศรุต ไปฆ่าผู้ตาย แต่ไม่มีอาวุธปืน ภายหลังจำเลยที่ 2 ได้จัดหาอาวุธปืนของกลางให้นายประชา และนายวิศรุต ไปฆ่าผู้ตายในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากแก่การแต่งเติมเรื่องราว
อีกทั้งพนักงานสอบสวนก็ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะจัดทำพยานหลักฐานเพื่อปรักปรำจำเลยทั้งสอง ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมจำเลยที่ 1 ในฐานะที่ต้องสูญเสียสามี พยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้มีน้ำหนักมั่นคงว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง ที่จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่าเพียงแค่ให้นายวิศรุต และ นายประชา ติดตามพฤติการณ์ของผู้ตายว่าติดพันหญิงอื่นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องเลื่อนลอย เป็นการกล่าวอ้างอย่างง่ายๆ ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง แต่การนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้ตลอดชีวิต ริบอาวุธปืนของกลาง
