กองปราบฯ ตามรวบแก๊งอันธพาลย่านฝั่งธนฯ พยายามฆ่า "ดาบตำรวจ" ขณะติดตามจับกุมผู้ต้องหากับพวกหลังก่อเหตุยิงเข้าใปในร้านอาหารย่านแสมดำแล้วซิ่งกระบะหลบหนี กระทั่งเจอกันจึงถูกรุมทำร้ายบีบคอชักปืนจ่อหัวข่มขู่ "นายดาบ" ร้องขอชีวิต เพราะเป็นคนภาคใต้เช่นกันจึงยอมปล่อยตัว ต่อมาเข้ามอบตัวเพิ่มอีก 1 อ้างไม่ได้ก่อเหตุ เผยขณะนี้คุมวิน จยย.ในพื้นที่แสมดำ รับเคยถูกจับในคดียิงปืนในที่สาธารณะติดคุก 8 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมา ด้านตำรวจเร่งตามจับที่เหลืออีก 1 มาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.คณพัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. แถลงการจับกุมแก๊งอันธพาลย่านฝั่งธนฯ พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย นายมารวย อุปการดี อายุ 41 ปี, นายธนิต ศรีรักษา อายุ 54 ปี และนายอริย์ธัช จุลรัตน์ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 55, 56 และ 57/2555 ลงวันที่ 31 มกราคม 2555 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและกระทำการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปให้เสียเสรีภาพหน่วงเหนี่ยวกักขังครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
โดยสามารถจับกุมนายมารวยได้ที่บ้านเลขที่ 54/85 หมู่บ้านปริญญลักษณ์ ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. ส่วนนายธนิตจับกุมที่วอยโลตัสพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ขณะที่นายอริย์ธัชจับกุมได้ที่บริเวณเทพนิมิตรอพาร์ตเม้นต์ ถนนเอกชัย ซอย 66 แขวงและเขตบางบอน กทม.
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ด.ต.เกรียงศักดิ์ คงแจ่ม ผบ.หมู่ สน.แสมดำ เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้าน “อ้ายเดือนสอง” ย่านแสมดำ จึงรุดไปตรวจสอบเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เพราะบางส่วนติดภารกิจอื่น ซึ่งเมื่อไปถึงปรากฏว่าคนร้ายได้ขับรถกระบะพากันหลบหนีไปแล้วจึงขับขี่จักรยานยนต์ออกติดตาม กระทั่งพบกับกลุ่มผู้ต้องหารวม 5 รายได้รุมทำร้ายและบีบคอ ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมาจ่อที่ศีรษะพร้อมกับข่มขู่ จากนั้นได้ลากตัวเข้าไปที่บริเวณหน้าบริษัท วังทองมหาทรัพย์ ซึ่งเป็นร้านรับซื้อของเก่า ด.ต.เกรียงศักดิ์ จึงขอร้อง เนื่องจากผู้ต้องหาบางรายเป็นคนภาคใต้เช่นเดียวกันกับ ด.ต.เกรียงศักดิ์ ทั้งหมดจึงยอมปล่อยตัวออกมา จากนั้น ด.ต.เกรียงศักดิ์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ พร้อมทั้งเข้าร้องขอให้ บก.ป. ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายด้วย เนื่องจากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลย่านฝั่งธนฯ
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า หลังจากได้รับแจ้งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. จึงลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา และติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งคงเหลือเพียงนายสรศักดิ์ เนตรน้อย อายุ 45 ปี และนายชุมพล หรือเค กังแฮ อายุ 47 ปี ที่ยังหลบหนีการจับกุม โดยแนวทางการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมีอาวุธปืนในความครอบครอง นอกจากนี้ พบว่านายชุมพลทำงานเป็นผู้คุมบริษัทรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุ และเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยนายมารวยกล่าวว่า วันเกิดเหตุพวกตนไปนั่งดื่มสุรากันที่ร้านอาหารที่เกิดเหตุก่อนจะมีปัญหาทะเลาะวิวาทและมีการพูดจาท้าทายกัน ด้วยอาการเมาสุราจึงควบคุมสติไม่อยู่ ซึ่งหลังจากออกมาจากร้านดังกล่าวหนึ่งในกลุ่มพวกตนได้ชักอาวุธออกมายิงใส่ร้านดังกล่าว จากนั้น ด.ต.เกรียงศักดิ์พยายามจะจับกุมพวกตน จึงรุมกันทำร้ายแต่ภายหลังเมื่อทราบว่าเป็นคนภาคใต้ด้วยกัน จึงยอมปล่อยตัวออกมา และไม่ได้หลบหนี โดยเหตุที่เกิดขึ้นตนต้องขอโทษทางผู้เสียหายด้วย และที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีและเร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 รายมาดำเนินคดีต่อไป
มอบตัวเพิ่มอีก 1
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายสรศักดิ์ เนตรน้อย อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุพยายามฆ่า ด.ต.เกรียงศักดิ์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พร้อมกับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ได้ก่อเหตุแต่อยู่ในกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมด้วย ซึ่งขณะนี้ทำหน้าที่คุมวินจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ย่านแสมดำ และยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจ สน.ท่าข้าม จับกุมในความผิดข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ และถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 8 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมา
ทั้งนี้ ภายหลังสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาส่ง สน.แสมดำรับไว้ดำเนินคดี
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.คณพัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.1 บก.ป. แถลงการจับกุมแก๊งอันธพาลย่านฝั่งธนฯ พยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย นายมารวย อุปการดี อายุ 41 ปี, นายธนิต ศรีรักษา อายุ 54 ปี และนายอริย์ธัช จุลรัตน์ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 55, 56 และ 57/2555 ลงวันที่ 31 มกราคม 2555 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและกระทำการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปให้เสียเสรีภาพหน่วงเหนี่ยวกักขังครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
โดยสามารถจับกุมนายมารวยได้ที่บ้านเลขที่ 54/85 หมู่บ้านปริญญลักษณ์ ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. ส่วนนายธนิตจับกุมที่วอยโลตัสพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ขณะที่นายอริย์ธัชจับกุมได้ที่บริเวณเทพนิมิตรอพาร์ตเม้นต์ ถนนเอกชัย ซอย 66 แขวงและเขตบางบอน กทม.
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ด.ต.เกรียงศักดิ์ คงแจ่ม ผบ.หมู่ สน.แสมดำ เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้าน “อ้ายเดือนสอง” ย่านแสมดำ จึงรุดไปตรวจสอบเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เพราะบางส่วนติดภารกิจอื่น ซึ่งเมื่อไปถึงปรากฏว่าคนร้ายได้ขับรถกระบะพากันหลบหนีไปแล้วจึงขับขี่จักรยานยนต์ออกติดตาม กระทั่งพบกับกลุ่มผู้ต้องหารวม 5 รายได้รุมทำร้ายและบีบคอ ก่อนจะชักอาวุธปืนออกมาจ่อที่ศีรษะพร้อมกับข่มขู่ จากนั้นได้ลากตัวเข้าไปที่บริเวณหน้าบริษัท วังทองมหาทรัพย์ ซึ่งเป็นร้านรับซื้อของเก่า ด.ต.เกรียงศักดิ์ จึงขอร้อง เนื่องจากผู้ต้องหาบางรายเป็นคนภาคใต้เช่นเดียวกันกับ ด.ต.เกรียงศักดิ์ ทั้งหมดจึงยอมปล่อยตัวออกมา จากนั้น ด.ต.เกรียงศักดิ์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ พร้อมทั้งเข้าร้องขอให้ บก.ป. ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายด้วย เนื่องจากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลย่านฝั่งธนฯ
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า หลังจากได้รับแจ้งชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. จึงลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา และติดตามจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งคงเหลือเพียงนายสรศักดิ์ เนตรน้อย อายุ 45 ปี และนายชุมพล หรือเค กังแฮ อายุ 47 ปี ที่ยังหลบหนีการจับกุม โดยแนวทางการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมีอาวุธปืนในความครอบครอง นอกจากนี้ พบว่านายชุมพลทำงานเป็นผู้คุมบริษัทรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุ และเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยนายมารวยกล่าวว่า วันเกิดเหตุพวกตนไปนั่งดื่มสุรากันที่ร้านอาหารที่เกิดเหตุก่อนจะมีปัญหาทะเลาะวิวาทและมีการพูดจาท้าทายกัน ด้วยอาการเมาสุราจึงควบคุมสติไม่อยู่ ซึ่งหลังจากออกมาจากร้านดังกล่าวหนึ่งในกลุ่มพวกตนได้ชักอาวุธออกมายิงใส่ร้านดังกล่าว จากนั้น ด.ต.เกรียงศักดิ์พยายามจะจับกุมพวกตน จึงรุมกันทำร้ายแต่ภายหลังเมื่อทราบว่าเป็นคนภาคใต้ด้วยกัน จึงยอมปล่อยตัวออกมา และไม่ได้หลบหนี โดยเหตุที่เกิดขึ้นตนต้องขอโทษทางผู้เสียหายด้วย และที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีและเร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 รายมาดำเนินคดีต่อไป
มอบตัวเพิ่มอีก 1
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายสรศักดิ์ เนตรน้อย อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุพยายามฆ่า ด.ต.เกรียงศักดิ์ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พร้อมกับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ได้ก่อเหตุแต่อยู่ในกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมด้วย ซึ่งขณะนี้ทำหน้าที่คุมวินจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ย่านแสมดำ และยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจ สน.ท่าข้าม จับกุมในความผิดข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ และถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 8 เดือน เพิ่งพ้นโทษออกมา
ทั้งนี้ ภายหลังสอบปากคำแล้วเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาส่ง สน.แสมดำรับไว้ดำเนินคดี
