ผบช.น.เชื่อผนังห้องอาคารพาณิชย์ย่านสายไหมคล้ายกับฉากหลังภาพหญิงสาวเปลือยอกในบ่อน ชี้ตรวจสอบวงจรปิดเจอแต่ความว่างเปล่า จ่อแจ้งข้อหากระทำอนาจารต่อ 2 นางแบบหวิว ขณะที่รอง ผบช.น.เผยสถานที่ถูกดัดแปลงพอสมควร แต่ยังเชื่อว่าเป็นจุดที่เปิดบ่อนเปลือยอก ย้ำได้พูดคุยกับ 2 นางแบบผ่านคนที่ติดต่อไปทำงาน โดยทั้งสองยังไม่ปริปากบอกใครว่าจ้างขอเวลา 2-3 วันเข้าให้ปากคำ พร้อมสั่ง ผกก.สายไหมชี้แจงข้อเท็จจริง
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหญิงสาวเปลือยอกในบ่อนการพนันแห่งหนึ่งว่า ในวันนี้จะมีความชัดเจน เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวบุคคลที่อยู่ในภาพมาให้ปากคำ ซึ่งการที่ตำรวจจะเชื่อหรือไม่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงว่ามีพยานรองรับหรือไม่ ซึ่งจะต้องตามคนในภาพมาให้ได้
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า นางแบบที่ปรากฏในภาพขอเวลาอีก 2-3 วันจะเข้าให้ปากคำ ส่วนอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่เปิดบ่อนการพนันย่านสายไหม โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจค้นเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่าผนังห้องคล้ายกันกับฉากหลังที่ปรากฏภาพหญิงสาวเปลือยอก ซึ่งเชื่อได้ว่าอาจจะเป็นที่นี่จริง ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในอาคารดังกล่าววจำนวนมาก พบว่าไม่สามารถบันทึกภาพได้
ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า หญิงสาวที่เปลือยอกทราบชื่อหมดแล้ว โดยอีกคนชื่อ บี และซัน มาริสา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อทั้ง 2 คนแล้ว รวมถึงบุคคลที่ติดต่อนางแบบทั้ง 2 คนไปถ่ายแบบ ส่วนบุคคลที่ปรากฏในภาพทั้งหมดจะต้องถูกตามตัวมาสอบปากคำต่อไป ซึ่งนางแบบทั้ง 2 คนอาจแจ้งข้อหากระทำอนาจารอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล ซึ่งในเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง
ทางด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสถานที่ซึ่งคาดว่าเคยเปิดเป็นบ่อนและมีหญิงสาวเปลือยอกในพื้นที่ย่านสายไหม มีความใกล้เคียงกันกับในภาพที่ถูกคนนำไปเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดนี้ แต่ก็มีการดัดแปลงพอสมควร โดยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการเปิดบ่อนไม่มีแล้ว แต่จะเป็นสถานที่ที่มีหญิงสาวเปลือยอกในบ่อนเดียวกันจริงหรือไม่จะต้องสอบสวนให้ชัดเจนก่อน หากแน่ชัดแล้วว่าเป็นสถานที่เล่นการพนันจริงจะเชิญตัวเจ้าของอาคารมาสอบสวน ส่วนนายชัย สายไหม ที่มีการระบุว่าเป็นเจ้าของบ่อนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวนต่อไปว่าเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.สายไหม ได้ทำเรื่องชี้แจงเข้ามายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าเช่นไรนั้น พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าวว่า ได้มอบหมายใน ผกก.สน.สายไหมทำเรื่องชี้แจงข้อเท็จจริงเข้ามาแล้ว หากจะชี้แจงหรือร้องของความเป็นธรรมก็ทำหนังสือเข้ามา พร้อมกันนี้ตนได้สั่งการให้รองผบก.1-9 ทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องบ่อนดังกล่าวเข้ามาด้วย และได้มีการพูดคุยกับ 2 นางแบบในภาพบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยโดยตรง แต่พูดคุยผ่านบุคคลที่ติดต่อนางแบบไปทำงาน ซึ่งให้การว่านางแบบทั้งสองคนรับจ้างเดินแบบทั่วไป โดยใครว่าจ้างก็ไป ซึ่งค่าจ้างแต่ละครั้งถ้าเป็นใน กทม. จะไม่แพงมาก ครั้งละ 1,500-2,000 แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดประมาณ 5,000 บาท แต่ไม่ได้บอกว่าใครในบ่อนเป็นคนจ้าง ซึ่งบอกแต่เพียงว่าเคยไปเดินแบบในบ่อนแต่นานแล้วตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการสืบสวนสถานที่ดังกล่าวนั้นดำเนินการหลังน้ำท่วม
“ในการจะเรียกตัวนางแบบทั้ง 2 คนเข้าให้ปากคำที่ใดนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ตอนนี้ ถ้าเขาเต็มใจมาให้ปากคำทางตำรวจก็ไม่มีปัญหา คงจะเชิญมาที่ บช.น. แต่ถ้าไม่เต็มใจเราก็ต้องให้ความคุ้มครองสิทธิสตรี เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหาในเรื่องของสิทธิต่างๆ” พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าว
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหญิงสาวเปลือยอกในบ่อนการพนันแห่งหนึ่งว่า ในวันนี้จะมีความชัดเจน เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวบุคคลที่อยู่ในภาพมาให้ปากคำ ซึ่งการที่ตำรวจจะเชื่อหรือไม่จะต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงว่ามีพยานรองรับหรือไม่ ซึ่งจะต้องตามคนในภาพมาให้ได้
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า นางแบบที่ปรากฏในภาพขอเวลาอีก 2-3 วันจะเข้าให้ปากคำ ส่วนอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่เปิดบ่อนการพนันย่านสายไหม โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจค้นเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่าผนังห้องคล้ายกันกับฉากหลังที่ปรากฏภาพหญิงสาวเปลือยอก ซึ่งเชื่อได้ว่าอาจจะเป็นที่นี่จริง ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในอาคารดังกล่าววจำนวนมาก พบว่าไม่สามารถบันทึกภาพได้
ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า หญิงสาวที่เปลือยอกทราบชื่อหมดแล้ว โดยอีกคนชื่อ บี และซัน มาริสา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อทั้ง 2 คนแล้ว รวมถึงบุคคลที่ติดต่อนางแบบทั้ง 2 คนไปถ่ายแบบ ส่วนบุคคลที่ปรากฏในภาพทั้งหมดจะต้องถูกตามตัวมาสอบปากคำต่อไป ซึ่งนางแบบทั้ง 2 คนอาจแจ้งข้อหากระทำอนาจารอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล ซึ่งในเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง
ทางด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสถานที่ซึ่งคาดว่าเคยเปิดเป็นบ่อนและมีหญิงสาวเปลือยอกในพื้นที่ย่านสายไหม มีความใกล้เคียงกันกับในภาพที่ถูกคนนำไปเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดนี้ แต่ก็มีการดัดแปลงพอสมควร โดยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการเปิดบ่อนไม่มีแล้ว แต่จะเป็นสถานที่ที่มีหญิงสาวเปลือยอกในบ่อนเดียวกันจริงหรือไม่จะต้องสอบสวนให้ชัดเจนก่อน หากแน่ชัดแล้วว่าเป็นสถานที่เล่นการพนันจริงจะเชิญตัวเจ้าของอาคารมาสอบสวน ส่วนนายชัย สายไหม ที่มีการระบุว่าเป็นเจ้าของบ่อนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวนต่อไปว่าเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.สายไหม ได้ทำเรื่องชี้แจงเข้ามายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าเช่นไรนั้น พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าวว่า ได้มอบหมายใน ผกก.สน.สายไหมทำเรื่องชี้แจงข้อเท็จจริงเข้ามาแล้ว หากจะชี้แจงหรือร้องของความเป็นธรรมก็ทำหนังสือเข้ามา พร้อมกันนี้ตนได้สั่งการให้รองผบก.1-9 ทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องบ่อนดังกล่าวเข้ามาด้วย และได้มีการพูดคุยกับ 2 นางแบบในภาพบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยโดยตรง แต่พูดคุยผ่านบุคคลที่ติดต่อนางแบบไปทำงาน ซึ่งให้การว่านางแบบทั้งสองคนรับจ้างเดินแบบทั่วไป โดยใครว่าจ้างก็ไป ซึ่งค่าจ้างแต่ละครั้งถ้าเป็นใน กทม. จะไม่แพงมาก ครั้งละ 1,500-2,000 แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดประมาณ 5,000 บาท แต่ไม่ได้บอกว่าใครในบ่อนเป็นคนจ้าง ซึ่งบอกแต่เพียงว่าเคยไปเดินแบบในบ่อนแต่นานแล้วตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการสืบสวนสถานที่ดังกล่าวนั้นดำเนินการหลังน้ำท่วม
“ในการจะเรียกตัวนางแบบทั้ง 2 คนเข้าให้ปากคำที่ใดนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ตอนนี้ ถ้าเขาเต็มใจมาให้ปากคำทางตำรวจก็ไม่มีปัญหา คงจะเชิญมาที่ บช.น. แต่ถ้าไม่เต็มใจเราก็ต้องให้ความคุ้มครองสิทธิสตรี เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหาในเรื่องของสิทธิต่างๆ” พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าว