ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 37 ปี เกย์เฒ่าชาวดัตช์ ชำเราเด็กชาย 12 ขวบ ศาลชี้พยานจำเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งจำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ คำให้การจึงไม่มีน้ำหนักอุทธรณ์จึงฟังไม่ขึ้น
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิลเลียม เจอร์ราด น็อปเปียน (Willem Gerard Knoppien) อายุ 54 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ และนายธเนศ หรือ กวัก บัวหลวง อายุ 35 ปี เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปพาเด็กหรือจัดให้เด็กกระทำการใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น, พาบุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อประมาณปลายเดือน มี.ค.50 ถึงวันใดไม่ปรากฏชัด เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันพราก ด.ช.นก (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ผู้เสียหาย ไปจากบิดา และมารดา เพื่อการอนาจาร ตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยที่ 2 ได้เป็นธุระจัดหาล่อไป และพา ด.ช.นก ผู้เสียหายไปที่บ้านเลขที่ 41/106 หมู่บ้านถาวรวิลเลจ 5 บ้านเขาน้อย ถ.ห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของจำเลยที่ 1 โดยอ้างว่า จะว่าจ้างไปทำความสะอาด แต่หลังจากผู้เสียหายทำความสะอาดบ้านพักให้เสร็จแล้ว จำเลยที่ 2 ได้กระทำอนาจาร ด้วยการใช้อวัยวะเพศถูไถหน้าท้องผู้เสียหายและสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ รวม 4 ครั้ง โดยทุกครั้ง จำเลยที่ 1 จะให้เงินแก่จำเลยที่ 2 ครั้งละ 200 บาท และให้เงินแก่ผู้เสียหาย จำนวน 120 บาท ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักพบหนังสือลามกประเภทชายกับชาย และชายกับเด็กชาย รวม 9 เล่ม อวัยวะเพศชายเทียม 1 อัน จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดชั้นจับกุมและชั้นศาล
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2552 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้นเป็นเวลา 37 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษจำคุก 26 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์สู้คดี
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ผู้เสียหายเบิกความยืนยันว่าจำเลยที่ 2 ได้ชักชวนให้ไปทำความสะอาดที่บ้านพักของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 นอนเปลือยกายอยู่เรียกให้เข้าไปในห้องนอน พร้อมกับบอกให้ถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะกระทำอนาจาร และสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง รวม 4 ครั้ง เห็นว่า ผู้เสียหายเป็นเด็กย่อมจดจำเหตุการณ์อย่างแม่นยำ เพราะเป็นการร่วมประเวณีที่ผิดปกติ คือ แบบชายกับชาย แม้พยานอาจจำเหตุการณ์ไม่ได้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ อีกทั้งจำเลยที่ 2 ก็เคยรับสารภาพในชั้นสอบสวน ทำให้คำให้การของจำเลยที่ 1 ไม่มีน้ำหนัก อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นชอบแล้วศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน