เจ้าของร้านเพชร ในห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว โร่แจ้งความจับสามล้อเครื่อง เชิดทองรูปพรรณ-เครื่องเพชรกว่า 10 ชิ้น มูลค่า 5 แสนบาท หลบหนี ด้านพนักงานสอบสวนประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวรจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น.นางปัทมา เชี่ยวชาญทอง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/4 ถนนเพื่องนคร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม.เจ้าของร้านปัทมาเพชรงาม ตั้งอยู่ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง นงนุช รัศมี พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.พลับพลาไชย 1 เพื่อแจ้งความจับโชเฟอร์รถสามล้อเครื่องเชิดกระเป๋าใส่เครื่องเพชร และทองรูปพรรณ จำนวนกว่า 10 ชิ้น มูลค่าประมาณ 500,000 บาท
นางปัทมา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.10 น.ที่ผ่านมา ได้นำเครื่องเพชร และทองรูปพรรณ ที่สั่งทำไว้จำนวนกว่า 10 ชิ้น ใส่กระเป๋าเดินทางเพื่อเอาไปตรวจความเรียบร้อยที่ร้านโดยพาหลานวัย 3 ขวบมาด้วย และได้เรียกแท็กซี่หลายคัน แต่ก็ไม่มีคันไหนจอดรับ จึงตัดสินใจเรียกสามล้อเครื่องจากแยกสี่กั๊กพระยาศรี มาลงที่ด้านหน้าโรงพยาบาลหัวเฉียว ถนนบำรุงเมือง แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อจะเรียกรถแท็กซี่ต่อไปที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว เมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาล ก็ได้จ่ายเงินค่ารถจำนวน 50 บาท จากนั้นก็อุ้มหลานลงจากรถ แต่ยังไม่ทันได้หยิบกระเป๋า คนขับรถก็รีบเร่งเครื่องออกไปทันที
“ฉันพยายามตะโกนร้องเรียกให้จอดเท่าไรก็ไม่ยอมจอด ซึ่งตอนขึ้นรถนั้นฉันก็วางกระเป๋าไว้ในแนวตั้ง คนขับรถสามล้อก็น่าจะสังเกตเห็นว่า มีกระเป๋าใบดังกล่าวอยู่ด้วย หลังจากนั้น ก็ได้โทรศัพท์เข้าไปแจ้งรายการวิทยุ จส.100 ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ก่อนจะลองเรียกรถกลับไปที่แยกสี่กั๊กพระยาศรี เผื่อว่า คนขับรถสามล้อเครื่องจะนำกระเป๋ากลับมาคืนตรงจุดที่ตนเรียกรถสามล้อคันดังกล่าวมา แต่ก็ไม่มีวี่แวว จึงเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว”
นางปัทมา ให้การต่อว่า รูปร่างคนขับรถสามล้อเครื่องนั้น จำได้แค่ว่าชายผิวขาว อายุประมาณ 40 ปี ตัดผมทรงลานบิน สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ใช้รถสามล้อเครื่องสีเขียวเหลือง ส่วนหมายเลขทะเบียนนั้นจำไม่ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ให้ตรวจสอบกล้องวรจรปิดบนถนนบำรุงเมือง และด้านหน้าโรงพยาบาลหัวเฉียว ว่าสามารถจับภาพรถสามล้อเครื่องคันดังกล่าวเอาไว้ได้หรือไม่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการติดตามตัวสามล้อเครื่องรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป