“นายดาบ-จ่า” ว่าที่ดอกเตอร์ร้องขอความเป็นธรรมขอผ่อนผันเลื่อนยศจากชั้นประทวนขึ้นสัญญาบัตร เนื่องจากต้องรอทำวิจัยปริญญาเอกก่อน หวั่นจบไม่ทันเปิดรับสมัคร 12 ม.ค.นี้
วันนี้ (10 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ด.ต.มีชัย เพียรกสิกรรม ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 บก.จร. และจ.ส.ต.กันตภณ กมลรัตน์ ผบ.หมู่ ฝอ. 4 บก.อก.บช.น. เดินทางเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนที่ บช.น. หลังจากที่ถูกกองบัญชาการการศึกษา (บช.ศ.) ตัดสิทธิในการสมัครคัดเลือกเพื่อเลื่อนชั้นจากประทวนมาเป็นชั้นสัญญาบัตร เนื่องจาก บช.ศ.ระบุเงื่อนไขว่าต้องเหมือนกับผู้ที่จบปริญญาตรี โดยต้องจบการศึกษาโดยสภามหาวิทยาลัยต้องอนุมัติภายในวันที่ 12 มกราคม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดโอกาสให้ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนได้มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานโดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒิเนติบัณฑิตไทย จำนวน 53 ราย เลื่อนเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ในตำแหน่งพนักงานสอบสวน และผู้ที่มีวุฒิปริญญาเอกจำนวน 5 ราย คัดเลือกและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรในตำแหน่ง รอง สว.กลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆดำเนินการสมัครและคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒิเนติบัณฑิตไทยเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเลื่อนเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร และมอบหมายให้กองบัญชาการการศึกษา (บช.ศ.) ดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒิปริญญาเอก เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อแต่งตั้งเลื่อนเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรนั้น
ด.ต.มีชัยกล่าวว่า ตนเรียนจบปริญญาเอกวิชาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยทักษิณ จ.สงขลา ซึ่งได้เรียนตามรายวิชาจนจบหลักสูตรแล้ว จึงได้เดินทางไปสมัครเพื่อเข้ารับการอบรมแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยเดินทางไปพร้อมกับ จ.ส.ต.กันตภณ แต่เมื่อเดินทางไปยื่นเอกสาร ทางกองบัญชาการการศึกษา (บช.ศ.) แจ้งว่าไม่สามารถยื่นสมัครได้ ต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับปริญญาตรี คือ รอให้สภามหาวิทยาลัยอนุมัติเสียก่อน ซึ่งตนกับ จ.ส.ต.กันตภณเรียนจบหลักสูตรปริญญาเอกแล้ว เหลือเพียงการทำวิจัยเท่านั้น ซึ่งในระดับปริญญาตรีไม่ต้องมีการทำวิจัยสามารถจบได้เลย แต่ปริญญาโทและปริญญาเอกต้องมีการทำวิจัย พวกตนใช้ทุนและความพากเพียรของตัวเองในการเรียนจนจบปริญญาเอก
ด.ต.มีชัยกล่าวอีกว่า พวกตนยืนยันว่าเรียนครบหลักสูตรแล้ว โดยเหลือเพียงแค่การทำวิจัยเท่านั้น และมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะเคยผ่านการทำในระดับปริญญาเอกมาแล้ว หากการทำวิจัยเสร็จสิ้นแล้วพวกตนก็จะเร่งดำเนินการยื่นเอกสารย้อนหลังทันที ทั้งนี้ หากต้องรอให้ทำวิจัยจบจนสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ จะไม่ทันกำหนดที่กองบัญชาการการศึกษา (บช.ศ.) เปิดรับสมัคร เพราะมีการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 9-12 ม.ค.นี้เท่านั้น หากไม่ยื่นภายในปีนี้ก็จะต้องรอไปอีก 1 ปี และหากปีต่อไปมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ตนพร้อมกับเพื่อนข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่จบปริญญาเอกคงหมดสิทธิ์เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทั้งที่จบปริญญาเอกซึ่งเป็นวุฒิที่สูงสุดในระดับการศึกษา ตนจึงอยากขอความอนุเคราะห์ให้ทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาผ่อนผันให้กับเหล่าข้าราชการตำรวจที่จบปริญญาเอกได้มีความก้าวหน้าบ้าง
