xs
xsm
sm
md
lg

พ่อร้อง ป. จี้คดี ตร.ยิงลูกชายดับ-พบยาบ้าอย่างมีเงื่อนงำ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ (นั่งกลาง) บิดานายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ วิศวกร ที่ถูกยิงเสียชีวิต เข้าร้องต่อกองปราบฯ ให้ช่วยติดตามคดีลูกถูกตร.ยิงและมียาบ้าในศพอย่างมีเงื่อนงำ
พ่อและพี่ชายหนุ่มวิศวกร ร้องขอความเป็นธรรมกับกองปราบฯ ให้ช่วยเร่งคดีลูกชายถูกตำรวจยิงเสียชีวิต รวมทั้งการพบยาบ้าที่ศพอย่างมีเงื่อนงำ เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้าจาก สภ.ท้องที่ ประกอบกับคู่กรณีเป็นตำรวจ ทำให้ไม่เชื่อมั่นกระบวนการสอบสวน ขณะที่ ผบก.ป.สั่งคลี่คลายคดีในทุกประเด็นให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด พร้อมส่งพนักงานสอบสวนลงพื้นที่สืบหาพยานและหลักฐานในบริเวณจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม

วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ กองปราบปราม นายส่งเสริม แสงฤทธิ์ อายุ 54 ปี ลูกจ้างประจำกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จ.สกลนคร อยู่บ้านเลขที่ 290 หมู่ 4 ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมด้วย นายเด่นชัย แสงฤทธิ์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีการเสียชีวิตของ นายไพโรจน์ แสงฤทธิ์ อายุ 24 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นวิศวกรบริษัท มาร์เคม-อิมาจ จำกัด ประจำนิคมอุตสาหกรรมใน จ.ระยอง ที่ถูกตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.สกลนคร ยิงเสียชีวิตขณะเข้าจับกุมคดียาเสพติด บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ถ.สกลนคร-นครพนม ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2554 ต่อมามีการตรวจพบของกลางยาบ้า จำนวน 198 เม็ด ภายในกางกางชั้นในแบบขาสั้นอย่างมีเงื่อนงำขณะที่ศพอยู่ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล

นายเด่นชัย บุตรชายนายส่งเสริม และพี่ชายผู้ตายซึ่งอยู่ร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายไพโรจน์ขับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียน ญฎ 3884 กทม. พา น.ส.ปนัดดา ขวัญมา อายุ 23 ปี แฟนสาวและตนเดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้านกินดื่ม ก่อนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จ.สกลนคร แต่เมื่อขับรถไปถึงหน้าร้านอาหารก็ถูกยิงใส่จากด้านหลัง 2 นัด น้องชายจึงขับรถหนีเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย แต่มีรถกระบะขับตามเข้าไปและมีการยิงใส่อีก 2 ครั้งแต่ไม่ถูก กระทั่งขับรถหนีออกมาถึงหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ถูกรถกระบะอีกคันซึ่งจอดอยู่ข้างทางขับออกมาปาดหน้าซึ่งน้องชายพยายามขับรถหนีโดยเบี่ยงออกซ้ายเพื่อจะเข้าไปในปั๊มน้ำมัน ระหว่างผ่านท้ายรถกระบะคันดังกล่าวก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทุกคนในรถก้มหัวหลบ แต่น้องชายหลบไม่พ้น กระสุนเข้าที่ท้ายทอย

นายเด่นชัยกล่าวต่อว่า เมื่อรถหยุดในปั๊มน้ำมัน ตนกับ น.ส.ปนัดดารีบลงจากรถ มีชาย 5 คนเข้ามาบอกให้หมอบและเอามือไว้บนหัวจึงเชื่อว่าเป็นตำรวจ ตนจึงรีบโทรศัพท์ติดต่อเพื่อนและญาติ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยให้มาช่วย ระหว่างรอความช่วยเหลือได้ต่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเพราะไม่ได้ทำผิดอะไรทำไมต้องมายิงพวกเราด้วย กระทั่งมีรถกู้ภัยมานำน้องชายไปโรงพยาบาล โดยมีชายคนหนึ่งซึ่งไม่เกี่ยวข้องไล่ น.ส.ปนัดดาไปนั่งหน้ารถ ส่วนเขาขึ้นกระบะหลังไปถึงโรงพยาบาล มีการใส่ถุงมือยาง และเข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้

นายเด่นชัยกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุยังไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนจากตำรวจ สภ.ขมิ้น ท้องที่เกิดเหตุ ประกอบกับคู่กรณีคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ไม่เชื่อมั่นกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากกองบังคับการปราบปรามให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของน้องชาย รวมทั้งกรณีการพบยาบ้าที่ศพอย่างมีเงื่อนงำ ทั้งๆ ที่ก่อนจะพบยาบ้านั้นพยาบาลได้เรียกบิดาและญาติอีก 2 คนไปร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สินที่เสื้อผ้าและร่างกายของน้องชายถึง 2 ครั้งซึ่งก็ไม่พบอะไร นอกจากนี้ยังขอให้ช่วยตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของน้องชายด้วย

พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.3 บก.ป.กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สุพิศาล ให้เข้าคลี่คลายคดีนี้ให้ได้ความกระจ่างโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นตนได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อภิรักษ์ วงษ์มณี รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ต.ณัฐพงศ์ ตรงเที่ยง สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ทันที เพื่อสืบเสาะหาพยานในบริเวณจุดเกิดเหตุ และหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมจากเดิมที่พนักงานสอบสวนท้องที่ได้รวบรวมไว้แล้ว โดยให้สืบสวนในทุกประเด็นที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่ามีการยิงตอบโต้กันหรือไม่ เพื่อให้คดีนี้เกิดความชัดเจน และเป็นธรรมที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น