ตำรวจเข้มงวดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสาร เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวถึงจุดหมายปลายทางด้วยความปลอดภัย
วันนี้ (31 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านจราจร เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) ตรวจปัญหาด้านการจราจร รวมทั้งตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสาร เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย
พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสารทุกคันก่อนที่จะขับรถออกจากขนส่งหมอชิตไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งพนักงานขับรถทุกคนที่ผ่านการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ต้องเป็น 0 มิลลิกรัม หรือ 0 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงจะสามารถขับรถได้
สำหรับโทษของผู้ที่เมาแล้วขับขี่จะมีอัตราโทษปรับเป็นเงินจำนวน 5,000-20,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 1 ปี ถ้าหากมีอุบัติเหตุทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจะมีอัตราโทษสูงขึ้น
จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสาร บขส.พบว่า มีพนักงานขับรถ 1 รายที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายวัดได้ 34 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินตามที่กฏหมายกำหนด แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ขับรถ แม้ว่าจะเป็นรถเปล่าไม่มีผู้โดยสารก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่จะมีการลงบันทึกประจำวันและรายงานไปยังต้นสังกัดต่อไป
สำหรับการจราจรบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) พบว่ายังคล่องตัวกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเป็นพิเศษ
ส่วนด้านการจราจรถนนวิภาวดีรังสิตและพหลโยธินยังคล่องตัว แต่ที่รถจะหนาแน่นคือช่วงวงแหวนบางประอินทร์ ส่วนการจัดการจราจรในพื้นที่จัดงานเคานท์ดาวท์ในพื้นที่กทม.นั้น เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งการปิดการจราจร และหากจะมีการปิดการจราจรจะพิจารณาจากจำนวนประชาชนและปริมาณรถเป็นหลัก และในส่วนเหตุอาชญากรรมในพื้นที่หมอชิตยังไม่ได้รับรายงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศสถานีขนส่งหมอชิต พบว่าผู้โดยสารได้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งไม่หนาแน่นเหมือนเมื่อวานที่ผ่านมา ที่มีประชาชนเดินทางโดยใช้รถโดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถร่วม รวม 230,000 คน และสามารถระบายคนและรถโดยสารหมดก่อนเวลาเที่ยงคืน ซึ่งทำให้ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยเฉพาะผู้โดยสารสายตะวันออกเฉียงเหนือที่พบว่าลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารที่จะเดินทางวันนี้ส่วนมากเป็นผู้โดยสารที่เดินทางในเส้นทางระยะสั้นๆ ซึ่ง บริษัทขนส่งฯ ประเมินว่าจะมีผู้โดยสารเดินทาง 150,000,-170,000 คน อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางบริษัทขนส่งฯ ได้จัดรถโดยสารไว้จำนวน 5,841 เที่ยว และรถเสริม 1,476 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 7,317 เที่ยว
วันนี้ (31 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านจราจร เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) ตรวจปัญหาด้านการจราจร รวมทั้งตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสาร เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย
พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสารทุกคันก่อนที่จะขับรถออกจากขนส่งหมอชิตไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งพนักงานขับรถทุกคนที่ผ่านการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ต้องเป็น 0 มิลลิกรัม หรือ 0 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงจะสามารถขับรถได้
สำหรับโทษของผู้ที่เมาแล้วขับขี่จะมีอัตราโทษปรับเป็นเงินจำนวน 5,000-20,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 1 ปี ถ้าหากมีอุบัติเหตุทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจะมีอัตราโทษสูงขึ้น
จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสาร บขส.พบว่า มีพนักงานขับรถ 1 รายที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายวัดได้ 34 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินตามที่กฏหมายกำหนด แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ขับรถ แม้ว่าจะเป็นรถเปล่าไม่มีผู้โดยสารก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่จะมีการลงบันทึกประจำวันและรายงานไปยังต้นสังกัดต่อไป
สำหรับการจราจรบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) พบว่ายังคล่องตัวกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเป็นพิเศษ
ส่วนด้านการจราจรถนนวิภาวดีรังสิตและพหลโยธินยังคล่องตัว แต่ที่รถจะหนาแน่นคือช่วงวงแหวนบางประอินทร์ ส่วนการจัดการจราจรในพื้นที่จัดงานเคานท์ดาวท์ในพื้นที่กทม.นั้น เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งการปิดการจราจร และหากจะมีการปิดการจราจรจะพิจารณาจากจำนวนประชาชนและปริมาณรถเป็นหลัก และในส่วนเหตุอาชญากรรมในพื้นที่หมอชิตยังไม่ได้รับรายงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศสถานีขนส่งหมอชิต พบว่าผู้โดยสารได้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งไม่หนาแน่นเหมือนเมื่อวานที่ผ่านมา ที่มีประชาชนเดินทางโดยใช้รถโดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถร่วม รวม 230,000 คน และสามารถระบายคนและรถโดยสารหมดก่อนเวลาเที่ยงคืน ซึ่งทำให้ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยเฉพาะผู้โดยสารสายตะวันออกเฉียงเหนือที่พบว่าลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารที่จะเดินทางวันนี้ส่วนมากเป็นผู้โดยสารที่เดินทางในเส้นทางระยะสั้นๆ ซึ่ง บริษัทขนส่งฯ ประเมินว่าจะมีผู้โดยสารเดินทาง 150,000,-170,000 คน อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางบริษัทขนส่งฯ ได้จัดรถโดยสารไว้จำนวน 5,841 เที่ยว และรถเสริม 1,476 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 7,317 เที่ยว