รอง ผบช.น.เผยรู้ชื่อ 3 คนร้ายร่วมก่อเหตุวางระเบิด 3 จุดแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อเกรงเสียรูปคดี รอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วเตรียมออกหมายจับทันที ยันชนิดระเบิดที่พบเป็นแบบแสวงเครื่องพร้อมทำงาน ไม่ใช่เป็นการจัดฉากตามที่กล่าวอ้าง เชื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
วันนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนครั้งที่ 2 ตามคำสั่ง บช.น. 486/2554 โดยเรียกผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิด 3 จุดย่านลาดกระบัง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และ 4 สน.จระเข้น้อย สน.ลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวน และพนักงานสอบสวน มาประชุมเร่งรัดในเรื่องการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อให้คดีลอบวางระเบิดทั้ง 3 จุด มีความกระชับและคืบหน้า
พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยการวางระเบิดมีความเชื่อมโยงกันและมีความชัดเจนในเรื่องของคนร้ายอีก 3 คน นอกเหนือจากนายจิรวัฒน์ จันทร์เพ็ง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่จับได้บริเวณสามแยกทางลัดวัดกิ่งแก้ว ปากซอยกาญจนาภิเษก 89 ก่อนหน้านี้ ขณะนี้ทราบชื่อคนร้ายทั้ง 3 แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยตอนนี้เกรงว่าจะเสียรูปคดี ส่วนหน่วยงานทางด้านการข่าวมีกองบังคับการตำรวจสันติบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาหลักฐานอย่างเร่งด่วน ซึ่งหน่วยงานด้านการข่าวได้ประกบตัวเฝ้าติดตามพฤติการณ์ต่างๆ ของกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องหาหลักฐานเชื่อมโยง ซึ่งไม่พบว่าจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือเคลื่อนไหวกับกลุ่มการเมือง และจะยังไม่ฟันธงว่าการระเบิด 3 จุด ย่านลาดกระบังจะมีความเชื่อมโยงกับการวางระเบิดหน้ากองสลากหรือไม่ โดยเชื่อว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 นี้ คนร้ายน่าจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เบื้องต้นจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่า นาฬิกา และหลอดไฟชนิดเดียวกัน ส่วนชนิดของระเบิดนั้นหน่วยตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดรายงานว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่พร้อมทำงาน และเป็นระเบิดของจริง ไม่ใช่การจัดฉากอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตอย่างแน่นอน ส่วนพยานหลักฐานยังต้องรอหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายที่เหลือได้ โดยวันนี้จะให้หน่วยเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD) มารายงานความคืบหน้า