ตำรวจท่องเที่ยวรวบแก๊งฟิลิปปินส์มอมยารูดทรัพย์เหยื่อ โดยจะเน้นเข้าตีสนิทหญิงสาวชาวญี่ปุ่น ชวนทานอาหารและพาไปเล่นไพ่ที่บ้านพัก แต่หากเหยื่อไหวตัวจะให้ดื่มน้ำผสมยาเสียสาวเมื่อได้ทรัพย์สินจะนำไปขายหรือจำนำ หากเป็นบัตรเครดิตก็นำไปรูดซื้อของจนเกลี้ยง พร้อมจับกุมหนุ่มเวียดนามและเขมรปักหลักตามสถานีรถไฟฟ้าและเส้นทางสกายวอล์ก จ้องล้วงกระเป๋าเหยื่อได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก
วันนี้ (24 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. และ พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผกก.1 บก.ทท. แถลงการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.คาร์เรน ดีซอน โดโลริโต อายุ 29 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ 2.นายเบอร์นาเบ มาร์ค เจอร์ราล์ด คาร์เรียน อายุ 22 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ แก๊งฟิลิปปินส์มอมยารูดทรัพย์ 3.นายงูเยน น็อก ที อายุ 34 ปี สัญชาติเวียดนาม และ4.นายยันที อายุ 58 ปี สัญชาติกัมพูชา แก๊งล้วงกระเป๋า พร้อมของกลาง ยากล่อมประสาทชนิดเม็ดสีม่วง ซึ่งระบุตัวยา Alprazolam ขนาด 1.0 มิลลิกรัม จำนวน 2 แผงๆ ละ 10 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง เครื่องเล่น mp3 จำนวน 2 เครื่อง ไพ่ 1 สำรับ และธนบัตรปลอม และตั๋วโรงรับจำนำจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.อดิศร์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกกลุ่มคนร้ายชาวฟิลิปปินส์มอมยาและนำทรัพย์สินมีค่าไป จากบริเวณสวนสาธารณจตุจักร ซึ่งทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติคนร้ายชาวฟิลิปปินส์ที่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ พบว่ามี 2 ราย จึงได้ให้ผู้เสียหายดูรูป โดยยืนยันตรงกันว่าเป็นคนก่อเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์ตามห้างสรรพสินค้าที่เชื่อว่าเป็นแหล่งที่กลุ่มคนร้ายแฝงตัวอยู่ โดยในวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายบริเวณ ชั้น 1 ของห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ.รามอินทรา จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยากล่อมประสาทชนิดเม็ดสีม่วง ระบุตัวยา Alprazolam หรือเรียกว่ายาเสียตัว ขนาด 1.0 มิลลิกรัม จำนวน 2 แผงๆ ละ 10 เม็ด พร้อมนำตัวไปค้นบ้านพักในซอย 6 หมู่บ้านเอื้อประชา ซอยนวลจันทร์ 56 แยก 7 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม พบทรัพย์สินมีค่าที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้กับทางตำรวจ จึงทำการตรวจยึดไว้
พล.ต.ต.อดิศร์กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ น.ส.คาร์เรน ดีซอน โดโลริโต และนายเบอร์นาเบ มาร์ค เจอร์ราล์ด คาร์เรียน ชาวฟิลิปปินส์ ให้การรับสารภาพว่าได้อยู่ในประเทศไทยมา 3 ปี แล้ว โดยมีพฤติกรรม คือ จะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่น เนื่องจากมีมนุษย์สัมพันธ์ดี และหลงเชื่อง่าย โดยจะใช้วิธีการเข้าตีสนิทจากการพูดคุย เลี้ยงอาหาร ซึ่งเมื่อเริ่มสนิทแล้วจะหลอกล่อเหยื่อไปเล่นการพนันที่บ้าน แต่ถ้าไม่มีเวลาหรือเหยื่อเริ่มรู้ตัวจะนำยากล่อมประสาทผสมเครื่องดื่มให้กิน ซึ่งเมื่อเหยื่อหมดสติก็จะนำทรัพย์ของมีค่าทั้งหมดไป ซึ่งเงินสดที่ได้มาจะนำไปจับจ่ายใช้สอย แต่ถ้าเป็นบัตรเครดิตก็จะนำไปรูดซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือถ้าเป็นพวกสิ่งของ อาทิ นาฬิกา มือถือ ก็จะนำไปขายหรือจำนำตามโรงจำนำ
พล.ต.ต.อดิศร์กล่าวว่า ส่วนอีกคดี นายงูเยน น็อก ที ชาวเวียดนาม และนายยันที ชาวกัมพูชา เป็นแก๊งล้วงกระเป๋านั้น ทั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจับกุมได้เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เช่นกัน ที่สถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ ขณะนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมีลักษณะน่าสงสัยจึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดยมีพฤติการณ์คือ คนร้ายทั้ง 2 รายจะแฝงตัวอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า และเส้นทางสกายวอล์ก เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่มาใช้บริการ เมื่อสบโอกาสก็จะกรีดกระเป๋าและล้วงกระเป๋าเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ล่าสุดตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างเกษรพลาซ่า ใกล้แยกราชประสงค์ พบว่าผู้ต้องได้กรีดกระเป๋าชาวญี่ปุ่นได้เงินไปกว่า 10,000 บาท
วันนี้ (24 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. และ พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผกก.1 บก.ทท. แถลงการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.คาร์เรน ดีซอน โดโลริโต อายุ 29 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ 2.นายเบอร์นาเบ มาร์ค เจอร์ราล์ด คาร์เรียน อายุ 22 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ แก๊งฟิลิปปินส์มอมยารูดทรัพย์ 3.นายงูเยน น็อก ที อายุ 34 ปี สัญชาติเวียดนาม และ4.นายยันที อายุ 58 ปี สัญชาติกัมพูชา แก๊งล้วงกระเป๋า พร้อมของกลาง ยากล่อมประสาทชนิดเม็ดสีม่วง ซึ่งระบุตัวยา Alprazolam ขนาด 1.0 มิลลิกรัม จำนวน 2 แผงๆ ละ 10 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง เครื่องเล่น mp3 จำนวน 2 เครื่อง ไพ่ 1 สำรับ และธนบัตรปลอม และตั๋วโรงรับจำนำจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.อดิศร์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกกลุ่มคนร้ายชาวฟิลิปปินส์มอมยาและนำทรัพย์สินมีค่าไป จากบริเวณสวนสาธารณจตุจักร ซึ่งทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติคนร้ายชาวฟิลิปปินส์ที่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ พบว่ามี 2 ราย จึงได้ให้ผู้เสียหายดูรูป โดยยืนยันตรงกันว่าเป็นคนก่อเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์ตามห้างสรรพสินค้าที่เชื่อว่าเป็นแหล่งที่กลุ่มคนร้ายแฝงตัวอยู่ โดยในวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายบริเวณ ชั้น 1 ของห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ.รามอินทรา จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยากล่อมประสาทชนิดเม็ดสีม่วง ระบุตัวยา Alprazolam หรือเรียกว่ายาเสียตัว ขนาด 1.0 มิลลิกรัม จำนวน 2 แผงๆ ละ 10 เม็ด พร้อมนำตัวไปค้นบ้านพักในซอย 6 หมู่บ้านเอื้อประชา ซอยนวลจันทร์ 56 แยก 7 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม พบทรัพย์สินมีค่าที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้กับทางตำรวจ จึงทำการตรวจยึดไว้
พล.ต.ต.อดิศร์กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ น.ส.คาร์เรน ดีซอน โดโลริโต และนายเบอร์นาเบ มาร์ค เจอร์ราล์ด คาร์เรียน ชาวฟิลิปปินส์ ให้การรับสารภาพว่าได้อยู่ในประเทศไทยมา 3 ปี แล้ว โดยมีพฤติกรรม คือ จะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่น เนื่องจากมีมนุษย์สัมพันธ์ดี และหลงเชื่อง่าย โดยจะใช้วิธีการเข้าตีสนิทจากการพูดคุย เลี้ยงอาหาร ซึ่งเมื่อเริ่มสนิทแล้วจะหลอกล่อเหยื่อไปเล่นการพนันที่บ้าน แต่ถ้าไม่มีเวลาหรือเหยื่อเริ่มรู้ตัวจะนำยากล่อมประสาทผสมเครื่องดื่มให้กิน ซึ่งเมื่อเหยื่อหมดสติก็จะนำทรัพย์ของมีค่าทั้งหมดไป ซึ่งเงินสดที่ได้มาจะนำไปจับจ่ายใช้สอย แต่ถ้าเป็นบัตรเครดิตก็จะนำไปรูดซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือถ้าเป็นพวกสิ่งของ อาทิ นาฬิกา มือถือ ก็จะนำไปขายหรือจำนำตามโรงจำนำ
พล.ต.ต.อดิศร์กล่าวว่า ส่วนอีกคดี นายงูเยน น็อก ที ชาวเวียดนาม และนายยันที ชาวกัมพูชา เป็นแก๊งล้วงกระเป๋านั้น ทั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจับกุมได้เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เช่นกัน ที่สถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ ขณะนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมีลักษณะน่าสงสัยจึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดยมีพฤติการณ์คือ คนร้ายทั้ง 2 รายจะแฝงตัวอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้า และเส้นทางสกายวอล์ก เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่มาใช้บริการ เมื่อสบโอกาสก็จะกรีดกระเป๋าและล้วงกระเป๋าเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ล่าสุดตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างเกษรพลาซ่า ใกล้แยกราชประสงค์ พบว่าผู้ต้องได้กรีดกระเป๋าชาวญี่ปุ่นได้เงินไปกว่า 10,000 บาท