"เหลิม"แถลงข่าวจับชาวมาเลเซียร่วมชาวไทยขนยาไอซ์หนัก 50 กิโลกรัมมูลค่า 150 ล้านบาทขายในไทย ทำทีเปิดบริษัททัวร์นำเที่ยวระหว่างมาเลเซียและไทย โดยใช้รถตู้เป็นพาหนะในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด
วานนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 15.00 น.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.จรัมพร สุรมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 4 ราย คือ 1.นายรณพร หรือบอย สมอไทย อายุ 25 ปี ชาวจ.สงขลา 2.นายอุทัย หรือทัย ชื่นทับ อายุ 41 ปี ชาวจ.สงขลา 3.นาย ONG KHYE LAM หรืออาเฮีย อายุ 50 ปี ชาวมาเลเซีย และ4.นาย LOW CHING WHO หรือ นายโฮ อายุ 50 ปี ชาวมาเลเซีย พร้อมของกลางยาไอซ์หนัก 50 กก.มูลค่า 150 ล้านบาท บรรจุอยู่ในกระเป๋าสีฟ้า 2 ใบ รถตู้ยี่ห้อ โตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ฮต 239 กทม. 1 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์ลำเลียงยา รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน ญฎ 7573 กทม. 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่นายอุทัยใช้นำทาง และโทรศัพท์มือถืออีก 7 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณลาดจอดรถยนต์ของห้างสรรพสินค้า โรบินสัน สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อเนื่อง บริษัท กรีนทัวร์ ถนนนิยมรัฐ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า จากการสืบสวนได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซียว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศมาเลเซีย ใช้ช่องทางลำเลียงยาเสพติดโดยเปิดเป็น บริษัททัวร์ นำเที่ยว ระหว่างประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย ใช้รถตู้เป็นพาหนะในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมสืบสวน ทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว ได้ใช้รถตู้สีขาวในการลำเลียงยาเสพติด โดยการดัดแปลงให้มีช่องรับไว้เก็บยา ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวจะขนยาไปให้ผู้ค้าชาวมาเลเชีย แต่เอามาพักไว้ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากนั้นจึงขยายผลจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซียได้อีก 2คน จึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 2 ชุดปฏิบัติการของ บช.ปส.สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นางพัชรนัน หรือหลิน พงศ์ธัญรัตน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 978/213 หมู่บ้านมัณฑนา 2 ซอย 29 ถนนเลียบคลองรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้ ประกอบด้วย รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อเมอร์ซิเดส เบนซ์ รุ่น เอส 320 ทะเบียน ษอ-4545 กรุงเทพฯ จำนวน 1คัน มูลค่า 6.5 ล้านบาท สร้อยคอมุก 1 เส้นมูลค่า 8 หมื่น นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึด เอกสารเกี่ยวกับ โฉนดที่ดิน และเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์อื่นๆ อีกจำนวนหลายรายการ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป.ป.ส. สามารถทำการตรวจยึดยาแก้หวัดเม็ดสีขาว ประมาณ 5 ล้านเม็ด บริเวณลานจอดลดอู่ซ่อมรถบรรจงกิจเจริญ หมู่ 10 ถนนเมืองใหม่สอง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากนั้นจึงขยายผลสอบสวนต่อจากการรวบรมพยานจึงพบว่า นางพัชรนันท์ เป็นผู้ดำเนินการสั่งจากประเทศเกาหลีใต้ แล้วนำเข้ามาในประเทศไทย ทางท่าเทียบเรือแหลมฉบัง พร้อมทั้งจ้างวานชิปปิ้งให้ดำเนินการด้านกงศุลกากรแทน จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐานแล้วส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนคดีสุดท้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.เวลา 15.00 น.ที่ผ่านมานี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 นำโดย พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.สมสง่า ชะรินทร์ หัวหน้าชุดสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดภาคเหนือ ได้ตั้งจุดสกัดและพบรถกระบะต้องสงสัยบรรทุกกระสอบทรายจำนวนหลายกระสอบ ขับผ่านจุดตรวจไปอย่างรวดเร็ว ทางชุดสืบสวนจึงได้ติดตามรถคันดังกล่าวไปพบว่า กลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดกลุ่มนี้ได้ทิ้งยาเสพติดเป็นเฮโรอีน ไว้บนรถยนต์กระบะยี่ห้อวีโก้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่บริเวณป่าข้างทาง ถนนสายฝาง -แม่สรวย บ้านห้วยสัก ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และเมื่อเข้าทำการตรวจสอบพบเฮโรอีนชนิดผงขาวอัดแท่ง จำนวน 500แท่ง ประมาณ 189.9 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 570 ล้านบาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขณะนี้ได้ทำการยึดของกลางทั้งหมดและนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป