“ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ทำทัพบิ๊กตำรวจ แถลงข่าวจับคนเลี้ยงแพะ อ้างมือวางระเบิดป่วนเมือง ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ สื่อถาม ผู้ต้องหาปิดปากเงียบ แต่ “เฉลิม” ชิงตอบ ตัดบทยกเลิกแถลง อ้าง “เพรียวพันธ์” ง่วงนอน ท่ามกลางความมึนงงของสื่อ
วันนี้ (16 ธ.ค.) เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น.และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์สืบสวน บช.น.ตำรวจสันติบาล และ ตำรวจ บช.ปส.ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายจิรวัฒน์ จันทร์เพ็ง อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้างเลี้ยงแพะ ภูมิลำเนา จ.สกลนคร พักอาศัยใน กทม.อยู่บ้านเลขที่ 209/132 หมู่ 1 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.ผู้ต้องหานำระเบิดแสวงเครื่องจำนวน 6 ลูก ไปวางไว้ในที่ต่างๆ รวม 3 จุด คือ บริเวณข้างกำแพงธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 77 จำนวน 1 ลูก จุดระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรลใส่ไว้ในท่อพีวีซี จุดที่ 2 บริเวณสามแยกทางลัดวัดกิ่งแก้ว จำนวน 2 ลูก จุดระเบิดโดยการตั้งเวลาด้วยนาฬิกาปลุกใส่ไว้ในท่อพีวีซี และจุดที่ 3 บริเวณใต้สะพานหนองปรือ ถนนอ่อนนุช เขตลาดกระบัง เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง 3 ลูก จุดระเบิดโดยการตั้งเวลาด้วยนาฬิกาปลุกใส่ไว้ในท่อพีวีซี โดยสามารถจับกุมได้บริเวณสามแยกทางลัดกิ่งแก้ว (ปากซอยกาญจนาภิเษก 89) ถ.คู่ขนาน ขณะกำลังนำวัตถุต้องสงสัยไปวางไว้
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันนี้ โดยการสะกดรอยเฝ้าติดตามตามจุดต่างๆ จุดแรกตั้งแต่บริเวณข้างกำแพงด้านนอกธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขุมวิท ซ.77 ถ.อ่อนนุช-ลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม.พบวัตถุระเบิด ชนิดแสวงเครื่อง 1 ลูก จุดระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรล ใส่ไว้ในท่อพีวีซี
จุดที่สอง บริเวณสามแยกทางลัดวัดกิ่งแก้ว (ปากซอยกาญจนาภิเษก 89) ถ.คู่ขนานกาญจนาภิเษก แขวงและเขตประเวศ พบวัตถุระเบิด ชนิดแสวงเครื่อง 2 ลูก จุดระเบิดโดยการตั้งเวลาด้วยนาฬิกาปลุก ใส่ไว้ในท่อพีวีซี และจุดที่สาม บริเวณใต้สะพานหนองปรือ ถ.อ่อนนุช-ลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เป็นการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้ปั่นป่วน ซึ่งสามารถกู้วัตถุระเบิดได้แล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางตำรวจได้ติดตามระหว่างที่ผู้ต้องหาเดินทางมาวางระเบิดตามจุดต่างๆ แต่ตำรวจไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะทำการก่อเหตุเพียงคนเดียว และก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาก็ได้อ้างว่าไม่เคยมาชุมนุมประท้วงเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่อย่างใด
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ที่ได้นำผู้ต้องหามาแถลงข่าวในวันนี้ เนื่องจากอยากจะให้ทุกคนเห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาแต่อย่างใด แม้ผู้ต้องหาเองจะให้การปฏิเสธตลอดทั้งข้อกล่าวหา ไม่ตอบคำถามสื่อทุกคำถามใดๆ ทั้งสิ้นนั้น มันก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะไม่ตอบ โดยผู้ต้องหาตอบเพียงว่า “ขอให้การในชั้นศาล”
“ถ้าในเรื่องของคดีมีความชัดเจน จะมีการแถลงข่าวให้ทราบเป็นระยะๆ แต่ตอนนี้ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะงานแบบนี้ต้องการขยายผล เอางานเป็นตัวตั้ง และจะวิเคราะห์เร็วไปก็ไม่ได้ เนื่องจากรายละเอียดมันมีเยอะ และยังไม่สามารถบอกหมดได้ เดี๋ยวเขาจะทำการขยายผลยากอีก ซึ่งรัฐบาลยุคนนี้ในฐานะที่ตนเองเป็นพนักงานสอบสวนเก่าเราต้องยึดกฎหมายเป็นหลักผู้ต้องหาจะให้การหรือไม่เป็นสิทธิ แต่ตำรวจต้องหาพยานหลักฐานมาประกอบชี้ให้ได้ว่าผู้ต้องหากระทำความผิด คดีนี้ผู้ต้องหาเขาขอให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล การที่นำตัวออกมาแถลงข่าววันนี้ เพื่อต้องการให้สื่อมวลชนเห็นว่าเราไม่ได้ข่มขู่บังคับ หรือทำร้ายร่างกาย เพราะมันหมดยุคนั้นไปแล้ว โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ การทำงานทั้งหมดไม่ใช่ผลงานของรัฐบาลอย่างเดียว ทางตำรวจได้ทำงานตลอด 24 ชม.ไม่มีวันหยุด และตอนนี้คงง่วงนอนแล้ว” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี พร้อมกับรีบขอตัวเพื่อไปชี้แจงคณะกรรมมาธิการต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้ต้องหาไม่เปิดปากพูดแต่อย่างใด ได้แต่นั่งนิ่งเก็บอาการ บอกเพียงสั้นๆ ว่า ขอให้การในชั้นศาล และเมื่อถูกผู้สื่อข่าวรุมเร้าซักถามแบบไม่ยั้ง นายจิรวัฒน์ ได้แต่นั่งยิ้ม และก้มหน้าไม่กล้าสบตากับกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากที่จับจ้องอยู่ และพร้อมที่จะยิงคำถามใส่อยู่ตลอดเวลา ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งนั่งประกบด้านข้าง ได้ชิงตัดบทตอบคำถามแทนอย่างต่อเนื่อง พร้อมรีบตัดบทว่า เอาแค่นี้ก่อน เพราะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ง่วงนอน ก่อนที่จะย้ำในตอนท้ายว่า เรื่องนี้จะมีการขยายผลทางคดีต่อไป และบอกคนกรุงเทพฯเที่ยวปีใหม่ให้สบายใจ ขอตัวไปชี้แจงกรรมาธิการในสภาก่อนเลยเวลามาเยอะแล้ว ทำให้การแถลงข่าวครั้งนี้เสร็จสิ้นลงทันทีในเวลาอันรวดเร็วภายใน 20 นาที
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบข้อซักถามระหว่างแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นไปด้วยความกำกวม แต่ละคำถามมีคำตอบที่ไม่ชัดเจน แม้กระทั่งถามว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุหรือไม่ ก็ไม่มีใครตอบได้ รวมถึงจะนำไปตัวไปฝากขังที่ไหน ก็ไม่มีตำรวจคนใดชี้แจง ได้แต่เอาตัวผู้ต้องหากลับเข้าไปในห้องทำงานของ ผบช.น.ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไป ท่ามกลางความมึนงงของกองทัพสื่อมวลชน