xs
xsm
sm
md
lg

ปล่อยผู้ต้องขัง 1.2 หมื่นคนทั่วประเทศ ต่างตื้นตันรับพระราชทานอภัยโทษ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการปล่อยตัวผู้ต้องขัง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.2554
“ยิ่งลักษณ์” เป็นประธานปล่อยตัวผู้ต้องขัง ที่ได้รับการอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคล 5 ธันวา ทั่วประเทศ 1.2 หมื่นคน โดยกรมราชทัณฑ์ได้ฝึกอบรมฝึกอาชีพ เชื่อไม่เป็นภาระของสังคม ขณะที่ผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวต่างตื้นตันใจที่ได้รับการอภัยโทษปล่อยตัว ต่างรับปากจะกลับตัวเป็นคนดีและดีใจที่จะได้กลับไปพบกับครอบครัว



วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการปล่อยตัวผู้ต้องขัง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.2554 มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ เข้าร่วมในพิธีปล่อยผู้ต้องขังในส่วนกลาง จำนวน 2,766 คน ท่ามกลางครอบครัวผู้ต้องขังที่มารอรับจำนวนนับพันคนและบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความปลื้มปีติ

จากนั้นผู้ต้องขังได้กล่าวปฏิญานตนว่าจะกลับตัวเป็นพลเมืองดี จากนั้น พระครูโฆสิต บุญญากร จากวัดเทวสุนทร ได้ประพรมน้ำมนต์ที่เตรียมไว้ในบาตรขนาดใหญ่สูงกว่า 1 เมตร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเดินทางกับภูมิลำเนา ส่วนในต่างจังหวัด ก็มีพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ รวมประมาณ 1.2 หมื่นคน

นายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เนื่องด้วยโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษ แก่ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการลดโทษและปล่อยตัว ซึ่งในการพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ ได้มีพระมหากรุณาธิคุณ ให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีความผิดเล็กน้อย ผู้เจ็บป่วย พิการ หรือผู้ที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงคนชรา เพื่อเปิดโอกาสให้ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี สำหรับพิธีการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวในวันนี้ จะเป็นผู้ต้องขังเหลือโทษเพียงเล็กน้อย มีจำนวนร่วม 1.2 หมื่นคน ทั่วประเทศ จากผู้ต้องขังที่คาดว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นคน ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะเร่งทยอยปล่อยตัวผู้ต้องขังภายใน 90 วัน สำหรับผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัว กรมราชทัณฑ์ ได้ฝึกอบรม เพื่อให้ผู้ต้องขังออกสู่สังคมโดยมีอาชีพไม่เป็นภาระของสังคม ซึ่งทางกระทรวงแรงงาน ได้มาตั้งโต๊ะลงรายชื่อจัดหางานให้ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัว รวมทั้ง ขสมก.ได้จัดรถประจำทางไว้นำรับส่งผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวไปยังสถานีขนส่งต่างๆ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งขณะให้โอวาทผู้ต้องขัง ว่า พิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังในวันนี้ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหามิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีต่อพสกนิกร และนับเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งนี้ โลกของเรานับวันจะเป็นโลกของการต่อสู้ สังคมไทยต้องการคนที่มีดุลยภาพ เพื่อรับมือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และต้องการความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ในการนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบสุข รัฐบาลจึงหวังว่า ทุกคนจะใช้โอกาสในการเริ่มใหม่ คิดดี ทำดี ตนขอให้กำลังใจ และข้อคิดว่า สังคมไทยเปิดกว้างให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน อย่ากลับไปทำผิด ใช้อดีตเป็นบทเรียน อดทนต่อสิ่งยั่วยุ อยู่ในกรอบ มีความขยันหมั่นเพียร จะทำให้กลับมามีจุดเริ่มต้นใหม่ได้ และขอให้น้อมรำลึกถึงความเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงงานหนัก เพื่อให้พสกนิกร มีคุณภาพชีวิตที่ดี ขอให้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติ มีเหตุผล รู้รักสามัคคี โดยนำความรู้ที่ได้ระหว่างต้องโทษไปประกอบอาชีพ ครอบครัว จะเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต เพื่อกลับมาสู้สังคมอย่างมีความสุข

ส่วนความรู้สึกของครอบครัวและผู้ที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวในครั้งนี้ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น โดย นายธีรเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี กล่าวว่า ติดคุกคดีฆ่าและพยายามฆ่า เป็นเวลา 7 ปี แต่รับสารภาพ ศาลลดโทษให้เหลือ 4 ปี ต่อมาได้รับการลดโทษ 2 ครั้ง กระทั่งได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ จึงรู้สึกดีใจมาก ตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำพยายามประพฤติตนเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม หลังจากนี้ก็จะกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวต่อไป

นายดาวน้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า เป็นผู้ต้องขังคดีวิ่งราวทรัพย์ ต้องโทษเป็นเวลา 3 ปี ต่อมาได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งรู้สึกดีใจและจะกลับไปอยู่กับครอบครัวย่านบางแค โดยรอญาติให้มารับ ระหว่างอยู่ในเรือนจำเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมก็ได้ออกไปช่วยเหลือน้ำท่วม บรรจุกระสอบทรายกั้นคันกั้นน้ำ ในพื้นที่ดอนเมือง บางใหญ่และบางบัวทอง ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือบำเบ็ญประโยชน์ให้สังคมบ้าง

นางสร้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี กล่าวว่า ติดคุกคดีลักทรัพย์ เป็นเวลา 4 ปี หลังจากได้รับการลดโทษและพระราชทานอภัยโทษก็ดีใจ จะได้กลับบ้านไปเจอครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งภูมิลำเนาอยู่ที่พระประแดง หลังจากนี้ จะกลับตัวเป็นคนดีและไม่กลับมาที่นี่อีก
แวะทักทาย ผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษ
พระครูโฆสิต บุญญากร จากวัดเทวสุนทร พรมน้ำมนต์ให้กับผู้ต้องขัง เพื่อความเป็นศิริมงคล
ผู้ต้องขังโผเข้ากอดและหอมลูกสาวทันทีที่ได้รับการปล่อยตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น