เป็นเวลา 26 วันเต็ม สำหรับการสืบสวนสอบสวนคดี “ปล้นธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา” เมื่อพบว่า “สุพจน์ ทรัพย์ล้อม” เหยื่อแก๊งโจร เขาคือ ผู้เสียหายรายแรกและรายเดียว ที่นับจากวันถูกปล้นจนถึงวันนี้ เขากลับไม่ร้อนรนที่จะเข้าให้ปากคำ เพื่อเร่งรัดให้ตำรวจติดตามทรัพย์สินที่ถูกปล้นไป เหมือนๆ กับผู้เสียหายทั่วๆ ไป
เหตุผลสั้นๆเข้าใจง่ายๆคือ...“ติดธุระส่วนตัวจึงไม่สะดวกที่จะเดินทางมาที่ สน.วังทองหลาง”..คือคำพูดที่ “สุพจน์” ต่อสายถึง “พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า” ผกก.สน.วังทองหลาง ในการขอเลื่อนนัดให้ปากคำ จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 7 ธ.ค.54
เป็นเรื่องแปลกอีกเช่นกัน เมื่อ “พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า” มีเจตนาดีกับท่านปลัด โดยเข้าใจไปเองว่า..โดยส่วนตัวเชื่อว่าการที่นายสุพจน์ ขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเข้าให้ปากคำ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนความคืบหน้าของคดีแต่อย่างใด"
คดีนี้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา และถือเป็นข่าวใหญ่ที่ทุกวงสนทนา จะต้องหยิบยก “ปฏิบัติการโกงปล้นโกง” มาพูดคุยกัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง ตลกตามคาเฟ่ ก็ต้องเล่นมุกปลัดพันล้านเพื่อเรียกเสียงฮา...กับบรรดาลูกค้า
การสืบสวนสอบสวน ที่นับวันคดีดูจะเป็นการคืบถอยหลัง แทนคืบเดินหน้า อีกทั้งคดีนี้เป็นไปได้สูงที่จะมีการวิ่งเต้นทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และฝ่ายผู้ปฎิบัติการปล้น โดยตัวกลาง อย่างตำรวจคือ ผู้บริโภค...!
จากโจทย์....ใครสั่งปล้น?
ปล้นทำไม?
ทำไม? ผู้ถูกปล้นจึงยื้อการให้ปากคำ
สุดท้ายผู้ถูกปล้นจะถูก ป.ป.ช.ยึดทรัพย์หรือไม่?
ข้อพิรุธของคดีนี้ เริ่มจากฝ่ายของผู้เสียหาย...คือคำพูดของภรรยานายสุพจน์ ในวันเกิดเหตุที่แจ้งสื่อว่า...เป็นเรื่องเข้าใจผิด...
ถัดมาคือ คำให้การในลักษณะเบี่ยงเบนประเด็นของนายสุพจน์เอง ที่บอกว่า “เงินที่คนร้ายปล้นไปได้ เป็นเงินจากสินสอดทองหมั้นของบุตรสาว รวมทั้งเงินใส่ซองประมาณ 5 ล้านบาท”
แต่เมื่อโจร 2 รายแรกเปิดปากกลับพบว่า เงินที่ปล้นในครั้งนี้ มีถึงประมาณ 200 ล้านบาท และยังมีอยู่ในบ้านอีก 700-1,000 ล้านบาท ประกอบกับคดีนี้ เจ้าของรหัส น.1 “พล.ต.ท.วินัย ทองสอง” ฟันธงมาตลอดว่าเงินที่ปล้นไปต้องไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทแน่นอน!
วันนี้...หลายคนคงแปลกใจที่อยู่ๆตัวเลขของ (เงินบาป) ก้อนนี้มาสะดุดหยุดอยู่ ที่ 18.1 ล้านบาท และทำไมเงินที่ “ประพันธ์ เรียงเครือ” หนึ่งในทีมปล้นที่ให้การไว้ในตอนแรกว่า หอบเงินไป 9 ล้านบาท วันนี้จึงหาไม่พบ หรือเขาพูดโกหกตามคำให้การปฏิเสธในตอนหลัง...
คำพูดของทีมปล้นในวินาทีแรกที่บอกกับบุคคลในบ้านเหยื่อว่า...“นายให้มาเอาของที่นายเอ็งเอามา”....
ขณะที่ “นายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื่อลี” ผู้ต้องหาคนสำคัญหัวหน้าแก๊งปล้น วันนี้เขายังคงล่องหน โดยมีเพียงข่าวที่ออกจากปากตำรวจว่าหนีอยู่ในประเทศลาว
คดีนี้สุดท้ายแล้ว...ไอ้โก้ ผู้ต้องหาที่เหยื่อไม่อยากจะให้จับ จะถูกตำรวจจับกุมตัวมาเค้นหาความจริงหรือไม่? จำนวนเงินที่ปล้นไปเป็น 200 ล้านบาท หรือหยุดแค่ 18.1 ล้านบาท คำให้การของ “สุพจน์” ที่นัดตำรวจให้ไปที่บ้านพักในวันที่ 8 ธ.ค.54 จะให้การอย่างไร ยืนยันตัวเลขเดิม 5 ล้านบาท หรือยอมรับมีเงินในบ้านพันล้านบาท...และที่เขาพูดกันว่า....คดีนี้เป็นเรื่องที่ “เจ้านายเก่า(น.) สั่งให้มาปล้น หลังลูกน้องเก่า(สุพจน์) คิดไม่ซื่้อเตรียมหอบเงิน 200 ล้านบาท ไปประจบสอพอเจ้านายใหม่(ส.)”...จะเป็นจริงหรือไม่ ต้องติดตาม!!!