ตำรวจ ปส.ล่อซื้อแล้วรวบแก๊งชาวลาวลักลอบขนยาบ้าหมื่นเม็ด มูลค่า 2 ล้าน อีกรายรวบสองคู่หูแอฟริกันค้าโคเคน ยึดของกลาง 7 กก. มูลค่า 14 ล้านบาท สารภาพเตรียมนำส่งเอเยนต์ขายในเมืองท่องเที่ยวพัทยา
วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสียร ผบก.ปส.2 แถลงการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ 2 ราย คือ ชาวลาวที่ลักลอบขนยาบ้า และชาวแอฟริกันลักลอบขนโคเคน เข้ามาขายในประเทศไทยล็อตใหญ่รวมมูลค่า 16 ล้านบาท
พล.ต.ต.อาชวันต์กล่าวว่า รายแรก บก.ปส.2 สามารถจับกุมนายลำมา พันทะลาด อายุ 44 ปี ชาวลาว พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันเชลล์ หจก.จิรศักดิ์เซอร์วิส ม.1 ถนนมิตรภาพ ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังชุดจับกุมได้ทำการติดต่อล่อซื้อ
จากการสอบสวนทราบว่า รับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.อาชวันต์กล่าวว่า อีกราย บก.ปส.2 ร่วมกับสำนักปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA) ร่วมกันจับกุม น.ส.นนทยา แก่นเสน อายุ 40 ปี (ลูกครึ่งไทย-แอฟริกัน) และนางนิโคลีน คูเกอร์ ชาวแอฟริกัน อายุ 44 ปี พร้อมของกลางโคเคน 7 กก. มูลค่า 14 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าโรงแรม 13 เหรียญรีสอร์ท ถ.พระรามเก้า แขวงและเขตสวนหลวง กทม. หลังลำเลียงยาเสพติดทางเครื่องบินเข้ามายังประเทศเพื่อบ้าน ก่อนเข้าประเทศไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหากโคเคนล็อตนี้หลุดลอดเข้ามาขายในไทยจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
พล.ต.ต.อาชวันต์กล่าวว่า จากการสอบสวนนางนิโคลีนสารภาพว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก และหากทำงานสำเร็จจะได้ค่าจ้างประมาณ 1 แสนบาท จากแก๊งค้าชาวแอฟริกันที่ส่งตัวมา โดยต้องนำยาไปให้ส่งให้เอเยนต์เพื่อจำหน่ายในพัทยา จ.ชลบุรี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อดำเนินคดี
วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสียร ผบก.ปส.2 แถลงการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ 2 ราย คือ ชาวลาวที่ลักลอบขนยาบ้า และชาวแอฟริกันลักลอบขนโคเคน เข้ามาขายในประเทศไทยล็อตใหญ่รวมมูลค่า 16 ล้านบาท
พล.ต.ต.อาชวันต์กล่าวว่า รายแรก บก.ปส.2 สามารถจับกุมนายลำมา พันทะลาด อายุ 44 ปี ชาวลาว พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันเชลล์ หจก.จิรศักดิ์เซอร์วิส ม.1 ถนนมิตรภาพ ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังชุดจับกุมได้ทำการติดต่อล่อซื้อ
จากการสอบสวนทราบว่า รับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.อาชวันต์กล่าวว่า อีกราย บก.ปส.2 ร่วมกับสำนักปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA) ร่วมกันจับกุม น.ส.นนทยา แก่นเสน อายุ 40 ปี (ลูกครึ่งไทย-แอฟริกัน) และนางนิโคลีน คูเกอร์ ชาวแอฟริกัน อายุ 44 ปี พร้อมของกลางโคเคน 7 กก. มูลค่า 14 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าโรงแรม 13 เหรียญรีสอร์ท ถ.พระรามเก้า แขวงและเขตสวนหลวง กทม. หลังลำเลียงยาเสพติดทางเครื่องบินเข้ามายังประเทศเพื่อบ้าน ก่อนเข้าประเทศไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหากโคเคนล็อตนี้หลุดลอดเข้ามาขายในไทยจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
พล.ต.ต.อาชวันต์กล่าวว่า จากการสอบสวนนางนิโคลีนสารภาพว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก และหากทำงานสำเร็จจะได้ค่าจ้างประมาณ 1 แสนบาท จากแก๊งค้าชาวแอฟริกันที่ส่งตัวมา โดยต้องนำยาไปให้ส่งให้เอเยนต์เพื่อจำหน่ายในพัทยา จ.ชลบุรี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เพื่อดำเนินคดี