ตำรวจเช็กวงจรปิด ล่าโจรปล้นบ้านปลัดคมนาคม

ตำรวจเช็กกล้องวงจรปิด โจรปล้นบ้านปลัดคมนาคมกวาดทรัพย์ 12 ล้าน แต่เปิดดูไม่ได้ รอกู้ภาพอีกครั้ง ด้าน ผบ.ตร.กำชับให้ทำคดีอย่างละเอียด พร้อมระดมชุดสืบสวนในพื้นที่หาข่าวคนร้าย

วันนี้ (13 พ.ย.) พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีกลุ่มคนร้ายบุกปล้นทรัพย์บ้านพักของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เลขที่ 77 ซ.ลาดพร้าว 64 แยก 2 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.พร้อมจับแม่บ้าน 2 คนมัดมือก่อนเข้าไปขโมยทรัพย์สินก่อนหลบหนีไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งหาข่าวติดตามคนร้ายว่าเป็นกลุ่มใด พร้อมทำการสอบสวนหาข้อมูลคนร้ายเพิ่มเติมจากพยานที่เกิดเหตุ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและจุดใกล้เคียง แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดดูได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ทำการกู้ภาพก่อน ซึ่งหากสามารถกู้ภาพขณะเกิดเหตุได้ก็จะนำมาเผยแพร่กับสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยติดตามคนร้ายอีกทาง

สำหรับทรัพย์สินที่กลุ่มคนร้ายปล้นไปนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่คนร้ายใช้เวลาไม่นานในการก่อเหตุ ด้านปลัดกระทรวงคมนาคมก็ได้ย้ำให้ดูแลความปลอดภัยรอบบ้าน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เพิ่มมาตรการออกตรวจบริเวณบ้านปลัดกระทรวงคมนาคมให้มากยิ่งขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว เพื่อเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้เดินทางมาตรวจสอบยังบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบให้ทำคดีอย่างละเอียด ก่อนจะเดินทางกลับไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ภายในบ้านเพิ่มเติม ส่วนที่บริเวณประตูรั้วก็มีการนำมอเตอร์ไฟฟ้าเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติมาติดตั้งให้ใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากเอาออกไปเนื่องจากน้ำท่วม

มีรายงานข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีว่ารถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีคนร้ายที่เข้าไปในบ้านทั้งหมด 12 คน กวาดทรัพย์สินซึ่งอยู่ในห้องของนายสุพจน์ โดยเฉพาะในตู้เสื้อผ้าไปกว่า 12 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลาเพียง 10 กว่านาทีเท่านั้น ทั้งนี้มีกล้องวงจรปิดจากบ้านใกล้เคียงสามารถจับภาพรถต้องสงสัยได้ แต่จากการตรวจสอบพบว่าภาพค่อนข้างมืดไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรถยี่ห้อใด ทราบเพียงว่าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถกระบะสีเทา มาจอดเยื้องหน้าบ้านของนายสุพจน์ โดยจอดหลบมุมกล้องวงจรปิดของบ้าน และเมื่อถึงจังหวะเกิดเหตุ รถกระบะคันดังกล่าวได้หลบหนีขับไปสุดซอยลาดพร้าว 64 แยก 2 แล้ววนออกไปทางซอยลาดพร้าว 62 โดยมีพลเมืองดีซึ่งได้ยินเสียงโวยวายจากในบ้านหลังเกิดเหตุ และเห็นรถกระบะขับออกไป จึงพยายามขับรถติดตาม แต่คลาดกันบริเวณถนนลาดพร้าว