จับหนุ่มกัมพูชาแค้นถูกนายจ้างดุด่าเรื่องงานเป็นประจำ หลังกลับจากลอยกระทงถูกด่าซ้ำอีกเลยคว้าไม้ฟาดหัวนายจ้างจนเสียชีวิต กวาดเอาทรัพย์สินแล้วหนีไปอรัญประเทศเตรียมข้ามฝั่งกลับเขมร แต่ไม่รอดถูกควบคุมตัวดำเนินคดี
วันนี้ (12 พ.ย.) เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.4 และพ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า ผกก.สน.วังทองหลาง แถลงจับกุมผู้ต้องหาใช้ไม้ทุบนายจ้างเสียชีวิต โดยคนร้ายที่ก่อเหตุ คือนายแคม หรือนายลีฮอง เจิน อายุ 23 ปี ลูกจ้างโรงงานน้ำตาล สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางนาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ จำนวน 1 เรือน แหวนเพชร จำนวน 2 วง สร้อยเงิน จำนวน 1 เส้น จี้ล้อมเพชร 1 วง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีส้ม-ดำ จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย สีดำ-แดง จำนวน 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูปดิจิตอลยี่ห้อโซนี่ สีชมพู จำนวน 1 เครื่อง และเงินสดจำนวน 1,120 บาท โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ย. เวลาประมาณ 09.40 น.ที่ผ่านมา มีเหตุพบศพนางวรรณา สมัยกลาง อายุ 57 ปี เจ้าของโรงงานผลิตน้ำตาลทราย นอนเสียชีวิตภายในบ้านพักย่าน ลาดพร้าว สภาพศพถูกทุบด้วยของแข็งบริเวณศรีษะและลำตัว จำนวนหลายบาดแผล มีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญต่อประชาชน
พล.ต.ต.วินัยเปิดเผยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 ทราบว่า ผู้ต้องหากำลังหลบหนีไปที่ จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมตัวหลบหนีออกนอกประเทศบริเวณอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงได้ทำการติดตามและประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.ธนสาร สุริวงศ์ ผกก.สภ.อรัญประเทศ พร้อมพวก จากการติดตามของเจ้าหน้าที่จนพบตัว นายแคม เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา พบตัวที่บริเวณด่านตรวจกองกำลังบูรพา ม.5 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
พล.ต.ต.วินัยกล่าวว่า จากการสอบสวน นายแคมรับสารภาพว่าได้เข้ามาทำงานกับผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาล ได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนเกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายมักจะชอบดุด่าและว่าผู้ต้องหาอยู่เป็นประจำทุกวันเรื่องการทำงาน จนวันเกิดเหตุ (10 พ.ย.) ที่ผ่านมา ช่วงเวลาเย็นผู้ตายได้ด่าว่าผู้ต้องหาเป็นปกติ จากนั้นผู้ตายได้ออกไปลอยกระทง จนถึงเวลา 23.00 น. ผู้ตายได้กลับมาที่บ้านพัก เมื่อกลับมาก็ได้ต่อว่าผู้ต้องหาอีก และในขณะที่ผู้ตายกำลังจะเปิดประตูเข้าบ้านอยู่นั้น ผู้ต้องหาได้ใช้ไม้ที่วางอยู่บริเวณที่เกิดเหตุฟาดที่บริเวณด้านหลังของผู้ตาย จากนั้นผู้ตายได้ร้องให้คนช่วยแล้วหลบเข้าไปภายในบ้าน ผู้ต้องหาจึงได้ไล่ตามและใช้ไม้ดังกล่าวฟาดใส่ศรีษะและลำตัวของผู้ตายอีกจำนวนหลายครั้ง จนนางวรรณา เสียชีวิต หลังจากนั้นผู้ต้องหาจึงได้เก็บเอาของมีค่าทั้งหมดที่อยู่กับตัวผู้ตายไว้ จนถึงช่วงเวลาเช้า ผู้ต้องหาจึงหลบหนีไปบริเวณอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อจะหลบหนีข้ามไปประเทศกัมพูชา แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ไม่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่ และตามกำหนดเวลาที่กำหนดไว้, อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต