ตร.ตั้งปมชิงทรัพย์ยิงเสี่ยตลาดนัดดับคาวีโก้

ยิงเสี่ยตลาดนัดค้าผลไม้เสียชีวิตคากระบะวีโก้ กิ๊กสาวเคเอฟซีที่นั่งมาด้วยรอดตาย ให้การยันถูกแก๊งคนร้ายซิ่ง จยย.ตามประกบยิงจนรถเสียหลักลงข้างทาง ตร.เชื่อคนร้ายหวังชิงทรัพย์แต่เปิดประตูรถไม่ได้จึงหลบหนีไป

วันนี้ (24 ต.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.ท.เทิดศักดิ์ ทักษิมา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุมีชายถูกยิงเสียชีวิตคารถกระบะเหตุเกิดบนถนนเลียบวงแหวนตะวันออก แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ใกล้กับโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล สว.สส.สน.คันนายาว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์-เทา หมายเลขทะเบียน บท-289ปทุมธานี สภาพหน้ารถพุ่งลงไปในคูน้ำข้างทาง ภายในรถพบศพนายบุญยงค์ จเรินสัตย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 หมู่11ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สภาพศพนั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ เงยหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณสีข้างด้านขวา 1 นัด และแขนขวา 1 นัด ที่เบาะนั่งข้างคนขับพบนางพัศภัสสรณ์ สอนวงศ์ อายุ 30 ปี พนักงานร้านเคเอฟซี ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากไม่สามารถเปิดประตูรถได้เพราะติดกิ่งไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยเหลือออกมาจากตัวรถ

จากการสอบสวนนางพัศภัสสรณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีจักรยานยนต์ 3-4 คันขับไล่ติดตามมาเมื่อตามทันคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3-4 นัดก่อนหลบหนีไป กระสุนถูกผู้ตายทำให้รถเสียหลักเข้าข้างทางก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ด้าน พ.ต.อ.เจริญกล่าวว่า นางพัศภัสสรณ์ยังคงให้การวกไปวนมา แต่จากการสอบถามจากญาติทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพขายผลไม้และจัดพื้นที่ตลาดนัด มีภรรยาและลูกอยู่ที่ จ.จันทบุรี ส่วนนางพัศภัสสรก็มีสามีและลูกอยู่แล้ว แต่เคยคบหากับผู้ตายมาก่อน ก่อนที่จะมาคืนดีกับสามี ล่าสุดเพิ่งคลอดลูกได้เพียง 2 เดือน ต่อมาระยะหลังกลับมาไปมาหาสู่กับผู้ตายอีกครั้ง ทั้งนี้ก่อนที่ตำรวจจะได้รับแจ้งว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต นางพัศภัสสรได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับญาติผู้ตายถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกแจ้งว่าผู้ตายขับรถตกข้างทาง ขณะที่ครั้งที่ 2 อ้างว่าผู้ตายขับรถพุ่งชนตนเอง กระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบจึงแจ้งว่าถูกคนร้ายไล่ยิงเสียชีวิต นอกจากนี้ ทางญาติของผู้ตายระบุว่าโดยปกติผู้ตายมักจะสวมสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ ทั้งยังพกเงินสดติดตัวครั้งละมากๆ แต่จากการตรวจสอบในตัวไม่พบทรัพย์สินดังกล่าวแต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนางพัสภัสสรณ์ไปทำการสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมตั้งประเด็นการสังหารว่าน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว หรือก่อนเกิดเหตุผู้ตายอาจไปดื่มสุราแล้วเกิดเขม่นกันคนร้ายจึงตามมายิง อย่างไรก็ตาม ไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้ง ได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนออกหาเบาะแสของคนร้ายเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ต่อมา เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล สว.สส.สน.คันนายาว เปิดเผยความคืบคดีว่าได้สอบปากคำ นางพัศภัสสรณ์ ที่นั่งรถมากับผู้ตาย พบว่าพยานเห็นคนร้ายมาด้วยกัน 4 คน ขับจักรยานยนต์มา 3 คันย้อนศรและสาดไฟสูงใส่หน้ารถ ก่อนที่มือปืนเป็นชายรูปร่างสันทัดจะลงรถแล้วชักปืนยิงใส่ผู้ตาย ผู้ตายพยายามหลบหนีทำให้รถหล่นในคลองติดกับง่ามต้นไม้ ทางพยานไม่เห็นหน้าคนร้ายเนื่องจากไฟรถคนร้ายสาดส่อง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มุ่งเน้นประเด็นชิงทรัพย์ และสอบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปดื่มกินมาก่อนจริง แต่ไปกินหลายร้าน ไม่พบว่ามีเรื่องทะเลาะหรือเขม่นกับใคร สันนิษฐานว่าคนร้ายต้องการชิงทรัพย์แต่เมื่อลงมือแล้วรถชนต้นไม้เข้าไปชิงทรัพย์ไม่ได้จึงหลบหนีไป โดยจะไล่ล่ากลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด