จำคุก 18 ปี 3 โจ๋เถื่อนควงสปาต้าบุกปล้นร้านอาหารอีสานซิตี้ ซอยเสือใหญ่ ศาลปรานีลดโทษเหลือจำคนละ 13 ปีครึ่ง ส่วนพวกร่วมแก๊ง อีก 1 ให้ยกฟ้อง
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องนายนัฐพล ลาภบริบูรณ์ อายุ 25 ปี นายณัฐพล เจนการกิด อายุ 26 ปี นายสุเทพ จิตโสภา อายุ 24 ปี และ นายโสฬส ธรรมศรีทิพย์ อายุ 22 ปี ทั้งหมดเป็นชาว กทม.เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.52 เวลากลางคืน จำเลยที่ 1-3 ได้ขับรถยนต์กระบะทะเบียน ดฮ 5175 กทม.ไปที่หน้าร้านอีสานซิตี้ ภายในซอยเสือใหญ่อุทิศ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.แล้วใช้มีดสปาต้า ยาว 50 เซนติเมตร และมีดปลายแหลม 1 เล่ม บุกเข้าไปในร้านปล้นเอาทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ เครื่องเล่นดีวีดี โทรศัพท์มือถือเพาเวอร์แอมป์ เบียร์ 10 ขวด รวมมูลค่าทรัพย์สิน 5 พันบาท และขึ้นรถหลบหนีไป โดยพวกจำเลยนำเครื่องเล่นดีวีดีไปฝากไว้ที่บ้านของจำเลยที่ 4 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธินจับกุมตัวจำเลยทั้งหมดได้
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีพยานผู้เสียหายหลายคนเบิกความยืนยันพฤติการณ์และสามารถจดจำใบหน้าจำเลยที่ 1-3 ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็สามารถติดตามของกลางบางรายการได้จากพวกจำเลย เชื่อว่าจำเลยที่ 1-3 กระทำความผิดตามฟ้องจริง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม
พิพากษาว่าจำเลยที่ 1-3 กระทำผิดจริงฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธฯ ให้จำคุกคนละ 18 ปี ฐานพกพาอาวุธฯ ปรับคนละ 100 บาท ในทางนำสืบคำเบิกความของพวกจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยที่ 1-3 ไว้ คนละ 13 ปี 6 เดือน ปรับคนละ 75 บาท ส่วนจำเลยที่ 4 ให้ยกฟ้อง
