รวบสามเณรวัดดัง ล่อลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี ผ่านการเล่นเกมออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต พูดจาหว่านล้อมกล่อมให้หลงเชื่อ จนนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ มาหาพี่เณรที่วัดใน กทม.และมีเพศสัมพันธ์กันในกุฏิหลายครั้ง จนญาติมาพบและแจ้งให้ตำรวจตามจับ ขณะที่เณรผู้ต้องหา สารภาพไม่ได้คิดหลอก แต่รักน้องจริง เมื่อถูกจับได้ต้องรับสภาพ เพราะตอนนั้นไม่นึกถึงศีลธรรม
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 รักษาราชการแทน ผบก.น.2 พร้อม พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รองผกก.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ต.จุมพล สินศิริพงษ์ สว.สส.สน.โคกคราม และ ร.ต.อ.มานะ จันทร์ลาด สว.กก.ดส.แถลงการจับกุม นายไพบูลย์ หรือ ตาล พูลสาริกิจ อายุ 20 ปี ซึ่งบวชเป็นสามเณรที่วัดลาดปลาเค้า หลังจากล่อลวงเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ทางอินเทอร์เน็ตมากระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ
พ.ต.อ.เจริญ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี 9 เดือน ได้หายออกจากบ้านที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จากนั้น น.ส.ผานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) มารดาของ ด.ญ.เอ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เชียงดาว ก่อนจะมีการประสานมาที่ศูนย์ประชาบดี เพื่อให้ช่วยติดตาม และได้มีการประสานงานกับ กก.ดส.บช.น. กับ สน.โคกคราม เนื่องจากสืบทราบว่า ด.ญ.เอ ได้มาพักอาศัยที่ กทม.ย่านวัดลาดปลาเค้า
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 23 ก.ย. ด.ญ.เอ ได้รับแจ้งว่า ออกมารออยู่ที่หน้าห้างเมเจอร์ สาขารัชโยธิน ก่อนจะแจ้งให้ทางญาติมารับตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบถาม ด.ญ.เอ ทราบว่า รู้จักกับ นายไพบูลย์ ผู้ต้องหา จากการเล่นเกมอินเทอร์เน็ต ชื่อเอ็กช็อต ได้ติดต่อพูดคุยทางเกมออนไลน์มาเป็นเวลา 4 เดือน จนได้เบอร์โทรศัพท์มือถือ และพูดคุยทางโทรศัพท์มาตลอด กระทั่งก่อนหนีออกจากบ้าน ด.ญ.เอ มีปากเสียงกับบิดา ที่ อ.เชียงดาว จึงถูกผู้ต้องหาหว่านล้อมให้มาหาที่ กทม.โดยนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ มาลงที่หมอชิต ก่อนจะนั่งแท็กซี่มาที่วัดลาดปลาเค้า
“ระหว่างที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุไม่ถึง 13 ปีเต็มดีนัก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชายที่เขาพูดคุยติดต่อในระยะเวลา 4 เดือนอยู่นั้น บวชเป็นเณรอยู่ที่วัด เมื่อมาถึงกรุงเทพฯไม่มีที่ไป ประกอบกับถูกใช้คารมหว่านล้อม จึงยอมไปกับผู้ต้องหา ซึ่งกำลังห่มผ้าเหลืองเป็นเณร และล่อลวงจนมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งภายในกุฏิในวัดดังกล่าว กระทั่งญาติของผู้ต้องหามาพบเห็นจึงได้แยกให้ ด.ญ.เอ มาอาศัยที่หอพักใกล้กับวัด และเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบพฤติกรรมจนจับกุมตัว และให้สึกจากเณรดำเนินคดีตามกฎหมาย” พ.ต.อ.เจริญ กล่าว
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ถือเป็นอุทาหรณ์ของสังคม และฝากผู้ปกครองดูแลลูกหลานให้ดี โดยเฉพาะการรู้จักผู้คนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นเณร แทนที่จะศึกษาธรรมะ แต่กลับหมกมุ่นสื่อออนไลน์จนทำผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นมารศาสนา และเป็นอันตรายต่อสังคม
จากการสอบถาม นายไพบูลย์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าได้ทำผิดจริง และเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ภายในกุฏิ ซึ่งใช้โน้ตบุ๊กต่อกับสายแลนด์ เมื่อทำผิดถูกจับก็ต้องรับสภาพ ตอนนั้นไม่ได้คำนึงถึงศีลธรรม เพราะมีความรู้สึกรักน้องเขาจริง ตนไม่ได้ล่อลวงน้องเขาเต็มใจมาเอง ส่วนที่มาบวชเป็นเณร เพราะทางญาติอยากให้บวช ที่ไม่บวชเป็นพระ เนื่องจากมีขั้นตอนยุ่งยากกว่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายไพบูลย์ 2 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยไม่มีเหตุอันควร และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 รักษาราชการแทน ผบก.น.2 พร้อม พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รองผกก.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ต.จุมพล สินศิริพงษ์ สว.สส.สน.โคกคราม และ ร.ต.อ.มานะ จันทร์ลาด สว.กก.ดส.แถลงการจับกุม นายไพบูลย์ หรือ ตาล พูลสาริกิจ อายุ 20 ปี ซึ่งบวชเป็นสามเณรที่วัดลาดปลาเค้า หลังจากล่อลวงเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ทางอินเทอร์เน็ตมากระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ
พ.ต.อ.เจริญ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี 9 เดือน ได้หายออกจากบ้านที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จากนั้น น.ส.ผานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) มารดาของ ด.ญ.เอ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เชียงดาว ก่อนจะมีการประสานมาที่ศูนย์ประชาบดี เพื่อให้ช่วยติดตาม และได้มีการประสานงานกับ กก.ดส.บช.น. กับ สน.โคกคราม เนื่องจากสืบทราบว่า ด.ญ.เอ ได้มาพักอาศัยที่ กทม.ย่านวัดลาดปลาเค้า
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 23 ก.ย. ด.ญ.เอ ได้รับแจ้งว่า ออกมารออยู่ที่หน้าห้างเมเจอร์ สาขารัชโยธิน ก่อนจะแจ้งให้ทางญาติมารับตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบถาม ด.ญ.เอ ทราบว่า รู้จักกับ นายไพบูลย์ ผู้ต้องหา จากการเล่นเกมอินเทอร์เน็ต ชื่อเอ็กช็อต ได้ติดต่อพูดคุยทางเกมออนไลน์มาเป็นเวลา 4 เดือน จนได้เบอร์โทรศัพท์มือถือ และพูดคุยทางโทรศัพท์มาตลอด กระทั่งก่อนหนีออกจากบ้าน ด.ญ.เอ มีปากเสียงกับบิดา ที่ อ.เชียงดาว จึงถูกผู้ต้องหาหว่านล้อมให้มาหาที่ กทม.โดยนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ มาลงที่หมอชิต ก่อนจะนั่งแท็กซี่มาที่วัดลาดปลาเค้า
“ระหว่างที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุไม่ถึง 13 ปีเต็มดีนัก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชายที่เขาพูดคุยติดต่อในระยะเวลา 4 เดือนอยู่นั้น บวชเป็นเณรอยู่ที่วัด เมื่อมาถึงกรุงเทพฯไม่มีที่ไป ประกอบกับถูกใช้คารมหว่านล้อม จึงยอมไปกับผู้ต้องหา ซึ่งกำลังห่มผ้าเหลืองเป็นเณร และล่อลวงจนมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งภายในกุฏิในวัดดังกล่าว กระทั่งญาติของผู้ต้องหามาพบเห็นจึงได้แยกให้ ด.ญ.เอ มาอาศัยที่หอพักใกล้กับวัด และเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบพฤติกรรมจนจับกุมตัว และให้สึกจากเณรดำเนินคดีตามกฎหมาย” พ.ต.อ.เจริญ กล่าว
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ถือเป็นอุทาหรณ์ของสังคม และฝากผู้ปกครองดูแลลูกหลานให้ดี โดยเฉพาะการรู้จักผู้คนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นเณร แทนที่จะศึกษาธรรมะ แต่กลับหมกมุ่นสื่อออนไลน์จนทำผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นมารศาสนา และเป็นอันตรายต่อสังคม
จากการสอบถาม นายไพบูลย์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าได้ทำผิดจริง และเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ภายในกุฏิ ซึ่งใช้โน้ตบุ๊กต่อกับสายแลนด์ เมื่อทำผิดถูกจับก็ต้องรับสภาพ ตอนนั้นไม่ได้คำนึงถึงศีลธรรม เพราะมีความรู้สึกรักน้องเขาจริง ตนไม่ได้ล่อลวงน้องเขาเต็มใจมาเอง ส่วนที่มาบวชเป็นเณร เพราะทางญาติอยากให้บวช ที่ไม่บวชเป็นพระ เนื่องจากมีขั้นตอนยุ่งยากกว่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายไพบูลย์ 2 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยไม่มีเหตุอันควร และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี