เมียจ่าอากาศเหยื่อเสื้อแดงขอบคุณสื่อประสานกองทัพรับเข้าราชการ

ภรรยาจ่าอากาศเหยื่อเสื้อแดงอุ้มลูกน้อยขอบคุณสมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมฯ ช่วยประสานกองทัพอากาศรับเข้าเป็นข้าราชการแทนสามี

วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นางชยาภัสร์ พิทยานนทกาญจน์ อายุ 30 ปี ภรรยา จ.อ.อ.เอกพงศ์ชลิต พิทยานนทกาญจน์ ทหารอากาศสังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง บริเวณศาลาแดง เมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 พร้อม ด.ช.ชัชพงศ์ พิทยานนทกาญจน์ หรือ น้องออโต้ บุตรชาย เดินทางเข้าพบ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคม เพื่อขอบคุณที่ช่วยประสานงานกับทางกองทัพอากาศให้รับเข้าเป็นราชการและความช่วยเหลือเพราะหลังสามีเสียชีวิตต้องเลี้ยงลูกด้วยความลำบาก

นายไพโรจน์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์ ก็ได้เร่งประสานงานกับกองทัพอากาศ จนได้รับการติดต่อจาก พล.อ.ต.ชูชีพ แผ้วสมบุญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ โดยมีหนังสือชี้แจง และยืนยันว่า กองทัพอากาศไม่ทอดทิ้ง โดยได้ตระหนักและรับทราบถึงความเดือดร้อนของทายาทของข้าราชการที่เสียชีวิต จึงให้ความช่วยเหลือพิจารณาเรื่องสิทธิกำลังพลของผู้เสียชีวิต เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการและสิทธิอันพึงได้ แก่ทายาทของข้าราชการที่เสียชีวิต ได้แก่ การรับการปูนบำเหน็จ 8 ชั้นยศ รับพระราชทานยศ เป็นนาวาอาการตรี เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเงินสงเคราะห์อื่นๆ ตามสิทธิและเงินช่วยเหลืออีกประมาณ 1 ล้านกว่าบาท

ด้าน นางชยาภัสร์ กล่าวว่า ขอบคุณทางสมาคมสื่อต่างๆ หน่วยงานทหารและทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ โดยหลังจากที่มาร้องเรียนทางกองทัพอากาศก็ได้เรียกเข้าไปดำเนินการบรรจุเข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร ตามแนวทางการบรรจุกำลังพลปีงบประมาณ 2555 โดยคาดว่าจะสามารถเข้ารับราชการได้ในเดือน ธ.ค.ปีนี้ หรือต้นปีหน้า

สำหรับ นางชยาภัสร์ นั้น ขณะที่ จ.อ.อ.เอกพงศ์ชลิต สามีเสียชีวิต น้องออโต้ ยังอยู่ในครรภ์ได้เพียง 4 เดือน หลังคลอดลูกจึงต้องกลับไปเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านเกิดที่ อ.ศรีราชา เนื่องจากไม่มีงานทำโดยระหว่างนั้นได้รอคำตอบจากกองทัพอากาศเพื่อเข้ารับราชการ ตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ แต่หลังจากสามีเสียชีวิตไปนานเกือบหนึ่งปีก็ยังไม่มีความคืบหน้า เมื่อติดต่อทางกองทัพก็บอกว่าให้รอไปก่อน ระหว่างนั้นจึงอาศัยเงินที่ได้จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดือนละ1,500 บาท และจากองค์การทหารผ่านศึก อีกเดือนละ 2,350 บาท ในการใช้ชีวิตและเลี้ยงลูก จึงได้มาร้องทางสมาคมฯ และสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางในการประสานกับทางกองทัพอากาศ เพื่อให้ความช่วยเหลือ