น้ำเจ้าพระยาหนุนสูง หวั่นเอ่อทะลักท่วมวัดริมแม่น้ำ พระสงฆ์ต้องรีบช่วยกันตักทรายใส่กระสอบนำไปวางเสริมแนวเขื่อนที่ทำไว้อย่างเร่งด่วน ขณะที่เกาะเกร็ดน้ำท่วมสูงระดับเอว ด้านที่ผู้ว่าฯ นนทบุรี ประกาศ 6 อำเภอประสบภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วม สั่งเจ้าหน้าที่เสริมแนวเขื่อน เร่งสูบน้ำในพื้นที่กระทบน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน วอนเรือที่สัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยาลดความเร็วไม่วิ่งใกล้ตลิ่ง เพราะจะทำให้น้ำซัดเข้าพังแนวเขื่อนกระสอบทราย
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่วัดกลางบางซื่อ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งวัดตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำในแม่น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วจนเกือบล้นทะลักแนวเขื่อนที่ทางวัดได้สร้างป้องกันไว้ ซึ่งทำให้พระสงฆ์กว่า 20 รูป ต้องรีบช่วยกันตักทรายใส่กระสอบเพื่อนำไปวางเสริมแนวเขื่อนที่ทำไว้อย่างเร่งด่วน ตามที่ทางหน่วยงานราชการได้มีการประกาศแจ้งเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่าทางกรมชลประทานจะปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีก 20-25 เซนติเมตร ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูงทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอาจไหลทะลักเข้าท่วมสูงกว่าแนวกระสอบทรายที่ทางหน่วยงานราชการสร้างไว้ที่ชุมชนเกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาและชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวได้รับผลกระทบจากระดับที่สูงขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งในวันนี้จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่าระดับน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมแนวกระสอบทรายที่ทำไว้สูงจนถึงระดับเอว ร้านขายสินค้าที่ระลึกของนักท่องเที่ยวต้องปิดตัวลง พร้อมกับเร่งอพยพสิ่งของภายในร้านค้าขึ้นที่สูง ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่สามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ ชาวบ้านและทาง อบต.เกาะเกร็ดต้องช่วยกันสร้างสะพานไม้ไว้ใช้สัญจรแทน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
จากการสอบถามนางสุดจิต เจริญกุล อายุ 60 ปี เจ้าของโรงกระถ่างเครื่องปั้นดินเผา กล่าวว่าระดับน้ำได้เริ่มสูงขึ้นเมื่อช่วงเวลา 18.00-22.00 น.เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่โชคดีชาวบ้านทราบล่วงหน้าจากทางหน่วยงานราชการประชาสัมพันธ์ว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นใน 1-2 วันนี้ จึงมีการค้นย้ายทรัพย์สินขึ้นไปอยู่ในที่สูงทำให้ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ซึ่งมีเพียงการใช้ชีวิตตามปกติที่ได้รับผลกระทบจากการสัญจรเข้าออกทั้งนักเรียนและชาวบ้านที่ต้องเตรียมเสื้อผ้าใส่ถุงลุยน้ำไปขึ้นเรือข้ามฝั่ง รวมถึงการขับถ่ายที่ได้รับความลำบาก เนื่องจากน้ำได้ท่วมสูงจนไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้ จึงอยากให้หน่วยงานราชการเร่งเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องเหล่านี้ในกับชาวบ้านในชุมชนด้วย
ด้าน นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินสถานการณ์น้ำท่วม ใน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางกรวย อำเภอบางใหญ่ อำเภอไทรน้อยและอำเภอปากเกร็ด และอีกหลายสิบตำบล ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและได้รับผลกระทบแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งเสริมแนวเขื่อนให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีก 50 เซนติเมตร รวมถึงให้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน เนื่องจากคาดว่าน้ำจะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอีกใน 1 ถึง 2 วันนี้ และประกาศขอความร่วมมือให้เรือที่สัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยาลดความเร็วของเรือลง และไม่ให้วิ่งใกล้ตลิ่ง เพราะจะทำให้น้ำซัดเข้าพังแนวเขื่อนที่ทำไว้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านอีก
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่วัดกลางบางซื่อ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งวัดตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำในแม่น้ำได้เพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วจนเกือบล้นทะลักแนวเขื่อนที่ทางวัดได้สร้างป้องกันไว้ ซึ่งทำให้พระสงฆ์กว่า 20 รูป ต้องรีบช่วยกันตักทรายใส่กระสอบเพื่อนำไปวางเสริมแนวเขื่อนที่ทำไว้อย่างเร่งด่วน ตามที่ทางหน่วยงานราชการได้มีการประกาศแจ้งเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่าทางกรมชลประทานจะปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีก 20-25 เซนติเมตร ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูงทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอาจไหลทะลักเข้าท่วมสูงกว่าแนวกระสอบทรายที่ทางหน่วยงานราชการสร้างไว้ที่ชุมชนเกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาและชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวได้รับผลกระทบจากระดับที่สูงขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งในวันนี้จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่าระดับน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมแนวกระสอบทรายที่ทำไว้สูงจนถึงระดับเอว ร้านขายสินค้าที่ระลึกของนักท่องเที่ยวต้องปิดตัวลง พร้อมกับเร่งอพยพสิ่งของภายในร้านค้าขึ้นที่สูง ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่สามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ ชาวบ้านและทาง อบต.เกาะเกร็ดต้องช่วยกันสร้างสะพานไม้ไว้ใช้สัญจรแทน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
จากการสอบถามนางสุดจิต เจริญกุล อายุ 60 ปี เจ้าของโรงกระถ่างเครื่องปั้นดินเผา กล่าวว่าระดับน้ำได้เริ่มสูงขึ้นเมื่อช่วงเวลา 18.00-22.00 น.เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่โชคดีชาวบ้านทราบล่วงหน้าจากทางหน่วยงานราชการประชาสัมพันธ์ว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นใน 1-2 วันนี้ จึงมีการค้นย้ายทรัพย์สินขึ้นไปอยู่ในที่สูงทำให้ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ซึ่งมีเพียงการใช้ชีวิตตามปกติที่ได้รับผลกระทบจากการสัญจรเข้าออกทั้งนักเรียนและชาวบ้านที่ต้องเตรียมเสื้อผ้าใส่ถุงลุยน้ำไปขึ้นเรือข้ามฝั่ง รวมถึงการขับถ่ายที่ได้รับความลำบาก เนื่องจากน้ำได้ท่วมสูงจนไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้ จึงอยากให้หน่วยงานราชการเร่งเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องเหล่านี้ในกับชาวบ้านในชุมชนด้วย
ด้าน นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินสถานการณ์น้ำท่วม ใน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางกรวย อำเภอบางใหญ่ อำเภอไทรน้อยและอำเภอปากเกร็ด และอีกหลายสิบตำบล ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและได้รับผลกระทบแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งเสริมแนวเขื่อนให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีก 50 เซนติเมตร รวมถึงให้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน เนื่องจากคาดว่าน้ำจะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอีกใน 1 ถึง 2 วันนี้ และประกาศขอความร่วมมือให้เรือที่สัญจรในแม่น้ำเจ้าพระยาลดความเร็วของเรือลง และไม่ให้วิ่งใกล้ตลิ่ง เพราะจะทำให้น้ำซัดเข้าพังแนวเขื่อนที่ทำไว้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านอีก