จับหนุ่มใหญ่เตรียมขนยาบ้า 1.8 หมื่นเม็ด ส่งขายลูกค้าภาคใต้ สารภาพได้ค่าจ้าง 5 หมื่น ปกติจะตระเวนส่งขายใน กทม.ส่วนภาคใต้เพิ่งทำครั้งแรก อีกรายอ้างมาสอบบรรจุเป็นพนักงานประปาแล้วนอนค้างกับเพื่อนหน้ารามฯ พอจะกลับบ้านที่สงขลาเพื่อนฝากปืน .38 และ .22 อย่างละกระบอก พร้อมกระสุน 36 นัด ช่วยเก็บไว้แล้วจะไปเอาคืนหลังปิดเทอม ขณะที่ ตร.แจ้งข้อหาพกปืนไม่มีทะเบียนคุมตัวดำเนินคดี ด้าน ผบช.น.ยันโยกย้าย 3 ผกก.ชอบธรรม ปัดเอาใจนาย
วันนี้ (12 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.ท.วิเชียร แสงพิทักษ์ รองผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน แถลงการจับกุมนายมานิตย์ คำสมจิตร อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลางมีกระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ ยาบ้าชนิดกลมแบนสีส้ม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า ชนิดปิดเปิดห่อเป็นแถว 1 ชั้น จำนวน 3 ห่อ บรรจุยาบ้า จำนวน 18,000 เม็ด และยาไอซ์ประมาณ 1 กิโลกรัม เพื่อสนองนโยบาย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.ที่ได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการในการสังกัดเร่งรัดผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง
พล.ต.ต.จารุวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า ได้มีสายลับแจ้งว่ามีการลักลอบขนส่งยาเสพติด โดยชายรูปร่างผอมสูง ผมยาว ผิวสีขาวเหลือง มีการนำส่งที่สถานีขนส่งกรุงเทพฯ เพื่อที่จะเดินทางไปภาคใต้ จึงได้แจ้งให้ พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ ผกก.สน.ตลิ่งชันทราบ และนำกำลังซุ่มดักรอเพื่อทำการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 18,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
จากการสอบสวน นายมานิตย์ สารภาพว่า ได้รับยาบ้ามาจากนายสงคราม (ไม่ทราบนามสกุล) เพื่อให้ไปส่งลูกค้าที่หาดใหญ่ โดยได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท ซึ่งได้รับค่าจ้างล่วงหน้ามาแล้ว 10,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ได้รับค่าจ้างตระเวนส่งเฉพาะในกรุงเทพฯ มาหลายครั้งแล้ว แต่ส่งไปทางใต้เพิ่งทำเป็นครั้งแรก ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนผู้ต้องหารายที่สอง คือ นายธันวา ขวัญเซ่ง อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .22 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน รวม 36 นัด โดยสามารถจับกุมได้ที่ชานชลาขาออกที่ 24 ภายในขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.จารุวัฒน์ กล่าวว่า ชุดจับกุมได้ออกตรวจตามแผนระดมปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรม ตามคำสั่งของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบ นายธันวา มีท่าทีพิรุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอทำการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางขึ้นมาสอบบรรจุเป็นพนักงานประปาแล้วไปนอนกับเพื่อนที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเมื่อสอบเสร็จจะเดินทางกลับบ้าน อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อนจึงฝากปืนกลับบ้าน โดยเมื่อมหาวิทยาลัยปิดจะเดินทางกลับไปรับโดยตนไม่ทราบมาก่อนว่าเพื่อนนำปืนมาจากใคร
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน (ไม่มีทะเบียน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง,หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว พร้อมนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“จักรทิพย์” ยันเด้ง 3 ผกก.ปัดเอาใจ “เหลิม”
นอกจากนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ เปิดเผยถึงกรณีมีคำสั่งย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล จำนวน 3 โรงพัก ประกอบด้วย พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน เข้าช่วยราชการที่ บก.น.2 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท เข้าช่วยราชการที่ บก.น.1 และ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน เข้าช่วยราชการที่ บก.น.7 กรณีปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนพนันในพื้นที่นั้น เป็นไปตามขั้นตอนหลักการปกครอง จากหลักฐานที่พบ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย และประสิทธิภาพในการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นการสั่งโยกย้ายตามคำสั่ง เพื่อเอาใจ ในกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้
ส่วนจะมีการพิจารณาโยกย้ายในพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ต.ท. จักรทิพย์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการละเลยของพื้นที่ใดเข้ามา แต่หากตรวจสอบพบว่าพื้นที่ใดบกพร่องต่อหน้าที่ก็จะต้องพิจารณาลงโทษอย่างเฉียบขาด
วันนี้ (12 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.ท.วิเชียร แสงพิทักษ์ รองผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน แถลงการจับกุมนายมานิตย์ คำสมจิตร อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลางมีกระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ ยาบ้าชนิดกลมแบนสีส้ม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้า ชนิดปิดเปิดห่อเป็นแถว 1 ชั้น จำนวน 3 ห่อ บรรจุยาบ้า จำนวน 18,000 เม็ด และยาไอซ์ประมาณ 1 กิโลกรัม เพื่อสนองนโยบาย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.ที่ได้สั่งการให้ทุกกองบังคับการในการสังกัดเร่งรัดผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง
พล.ต.ต.จารุวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า ได้มีสายลับแจ้งว่ามีการลักลอบขนส่งยาเสพติด โดยชายรูปร่างผอมสูง ผมยาว ผิวสีขาวเหลือง มีการนำส่งที่สถานีขนส่งกรุงเทพฯ เพื่อที่จะเดินทางไปภาคใต้ จึงได้แจ้งให้ พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ ผกก.สน.ตลิ่งชันทราบ และนำกำลังซุ่มดักรอเพื่อทำการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 18,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม
จากการสอบสวน นายมานิตย์ สารภาพว่า ได้รับยาบ้ามาจากนายสงคราม (ไม่ทราบนามสกุล) เพื่อให้ไปส่งลูกค้าที่หาดใหญ่ โดยได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท ซึ่งได้รับค่าจ้างล่วงหน้ามาแล้ว 10,000 บาท โดยก่อนหน้านี้ได้รับค่าจ้างตระเวนส่งเฉพาะในกรุงเทพฯ มาหลายครั้งแล้ว แต่ส่งไปทางใต้เพิ่งทำเป็นครั้งแรก ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนผู้ต้องหารายที่สอง คือ นายธันวา ขวัญเซ่ง อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .22 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน รวม 36 นัด โดยสามารถจับกุมได้ที่ชานชลาขาออกที่ 24 ภายในขนส่งกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.จารุวัฒน์ กล่าวว่า ชุดจับกุมได้ออกตรวจตามแผนระดมปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรม ตามคำสั่งของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พบ นายธันวา มีท่าทีพิรุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอทำการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางขึ้นมาสอบบรรจุเป็นพนักงานประปาแล้วไปนอนกับเพื่อนที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเมื่อสอบเสร็จจะเดินทางกลับบ้าน อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อนจึงฝากปืนกลับบ้าน โดยเมื่อมหาวิทยาลัยปิดจะเดินทางกลับไปรับโดยตนไม่ทราบมาก่อนว่าเพื่อนนำปืนมาจากใคร
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน (ไม่มีทะเบียน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง,หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว พร้อมนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“จักรทิพย์” ยันเด้ง 3 ผกก.ปัดเอาใจ “เหลิม”
นอกจากนี้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ เปิดเผยถึงกรณีมีคำสั่งย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล จำนวน 3 โรงพัก ประกอบด้วย พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน เข้าช่วยราชการที่ บก.น.2 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท เข้าช่วยราชการที่ บก.น.1 และ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน เข้าช่วยราชการที่ บก.น.7 กรณีปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนพนันในพื้นที่นั้น เป็นไปตามขั้นตอนหลักการปกครอง จากหลักฐานที่พบ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย และประสิทธิภาพในการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นการสั่งโยกย้ายตามคำสั่ง เพื่อเอาใจ ในกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้
ส่วนจะมีการพิจารณาโยกย้ายในพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ต.ท. จักรทิพย์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการละเลยของพื้นที่ใดเข้ามา แต่หากตรวจสอบพบว่าพื้นที่ใดบกพร่องต่อหน้าที่ก็จะต้องพิจารณาลงโทษอย่างเฉียบขาด