นครบาล 9 แถลงจับสองสามีภรรยาค้ากัญชาอัดแท่ง หนัก 38 กิโลกรัม ยึดรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมระดมปิดล้อมตรวจชุมชนเป้าหมายแพร่ระบาดยาเสพติด จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพ 91 คน
วันนี้ (2 ก.ย.) เวลา 09.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 นายชวัติ ชูเทศะ ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส.กทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.9 แถลงข่าวจับกุม นายนพนันท์ หรือเต้น แย้มทัศน์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.14 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และนางเกศรินทร์ เอนกศิลป์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.7 ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี สองสามีภรรยา พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำวน 38 แท่ง น้ำหนักรวม 38 กิโลกรัม รถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎห-1247 กทม.และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ต.เอื้อพงศ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม นำโดย พ.ต.ท.พีระศักดิ์ วิสูตรธนาวิทย์ สว.สส. สืบทราบว่า นายนพนันท์เป็นเอเยนต์ลักลอบจำหน่ายกัญชา จึงวางแผนจับกุมด้วยการให้สายลับติดต่อล่อซื้อกัญชาจากนายนพนันท์ จำนวน 30 กิโลกรัม ในราคา 210,000 บาท พร้อมทั้งนัดให้นำมาส่งที่บริเวณริมถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ชุมชนคลองศรีสำราญ แขวงและเขตหนองแขม กทม.
จนกระทั่งเวลา 17.30 วันที่ 31 ส.ค.ผู้ต้องหาทั้งสองคนขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าวเข้ามาจอดที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบกัญชาซุกซ่อนอยู่บริเวณที่พักเท้า และช่องเก็บของท้ายรถ จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
พล.ต.ต.เอื้อพงศ์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ไปรับกัญชาอัดแท่งทั้งหมดมาจากนายอ้วน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง จาก จ.นครพนม ในราคาแท่งละ 7,000 บาท จากนั้นก็ให้นำไปส่งให้ลูกค้าในที่ต่างๆ ตามที่ได้รับคำสั่ง โดยจะได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อกัญชา 1 แท่ง โดยเพิ่งทำเป็นครั้งแรกก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน แต่เจ้าหน้าท่ยังไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.เอื้อพงศ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้เมื่อเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.9 ทุกหน่วย ได้ดำเนินการปิดล้อมตรวจชุมชนที่เป็นเป้าหมายแพร่ระบาดยาเสพติด จำนวน 12 จุด ผลปรากฏว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพได้อีกทั้งสิ้น 91 คน แบ่งเป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย 18 คน ครอบครอง 21 คน เสพยาเสพติด 48 ราย และผู้ต้องหาคดีค้างเก่า 4 คน ได้ของกลางยาบ้า 748 เม็ด ยาไอซ์ 15 กรัม อาวุธปืนอีก 2 กระบอก
วันนี้ (2 ก.ย.) เวลา 09.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผบก.น.9 พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 นายชวัติ ชูเทศะ ผอ.ส่วนบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส.กทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.9 แถลงข่าวจับกุม นายนพนันท์ หรือเต้น แย้มทัศน์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.14 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และนางเกศรินทร์ เอนกศิลป์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.7 ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี สองสามีภรรยา พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำวน 38 แท่ง น้ำหนักรวม 38 กิโลกรัม รถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎห-1247 กทม.และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พล.ต.ต.เอื้อพงศ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม นำโดย พ.ต.ท.พีระศักดิ์ วิสูตรธนาวิทย์ สว.สส. สืบทราบว่า นายนพนันท์เป็นเอเยนต์ลักลอบจำหน่ายกัญชา จึงวางแผนจับกุมด้วยการให้สายลับติดต่อล่อซื้อกัญชาจากนายนพนันท์ จำนวน 30 กิโลกรัม ในราคา 210,000 บาท พร้อมทั้งนัดให้นำมาส่งที่บริเวณริมถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ชุมชนคลองศรีสำราญ แขวงและเขตหนองแขม กทม.
จนกระทั่งเวลา 17.30 วันที่ 31 ส.ค.ผู้ต้องหาทั้งสองคนขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าวเข้ามาจอดที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบกัญชาซุกซ่อนอยู่บริเวณที่พักเท้า และช่องเก็บของท้ายรถ จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
พล.ต.ต.เอื้อพงศ์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า ไปรับกัญชาอัดแท่งทั้งหมดมาจากนายอ้วน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง จาก จ.นครพนม ในราคาแท่งละ 7,000 บาท จากนั้นก็ให้นำไปส่งให้ลูกค้าในที่ต่างๆ ตามที่ได้รับคำสั่ง โดยจะได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อกัญชา 1 แท่ง โดยเพิ่งทำเป็นครั้งแรกก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน แต่เจ้าหน้าท่ยังไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.เอื้อพงศ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้เมื่อเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.น.9 ทุกหน่วย ได้ดำเนินการปิดล้อมตรวจชุมชนที่เป็นเป้าหมายแพร่ระบาดยาเสพติด จำนวน 12 จุด ผลปรากฏว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพได้อีกทั้งสิ้น 91 คน แบ่งเป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย 18 คน ครอบครอง 21 คน เสพยาเสพติด 48 ราย และผู้ต้องหาคดีค้างเก่า 4 คน ได้ของกลางยาบ้า 748 เม็ด ยาไอซ์ 15 กรัม อาวุธปืนอีก 2 กระบอก
