องค์คณะผู้พิพากษาคดีทุจริตซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม. เลือก “ธานิศ เกศวพิทักษ์” ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกาเป็นเจ้าของสำนวน นัดคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ พรุ่งนี้ 24 ส.ค.นี้
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็น โจทก์ฟ้องนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร, บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (STEYR - DAIMLER - PUCH Spezial fahrzeug AG&CO KG) และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วย งานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 จากกรณีการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท
โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ลงคะแนนลับเพื่อเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกา 9 คนเป็นองค์คณะพิจารณาคดีหมายเลขดำ อม.5/2554 ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย นายประทีป เฉลิมภัทรกุล ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา, นายธานิศ เกศวพิทักษ์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา, นายสมศักดิ์ จันทรา ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา, นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา, นายสุทัศน์ ศิริมหาพฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา, นายฐานันท์ วรรณโกวิท ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา, นายวีระชาติ เอี่ยมประไพ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และนายชินวิทย์ จินดาแต้มแก้ว ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โดยผู้พิพากษาทั้งเก้าได้ประชุมภายในองค์คณะฯ เลือกนายนายธานิศ เกศวพิทักษ์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.