เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และมูลนิธิเพื่อนเยาวชน เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกผ่านโฆษกตร.เรียกร้องให้ดำเนินคดีร้านค้าที่ขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หลังเกิดเหตุการณ์เยาวชนอายุ 17 ปี เมาแล้วขับจนเสียชีวิต ยื่น 4 ข้อ ให้ ตร.เอาผิดร้านค้าที่ขายเหล้าให้เยาวชน
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และมูลนิธิเพื่อนเยาวชน เพื่อการพัฒนากว่า 30 คนเดินทางเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ดำเนินคดีกับร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี จากเหตุการณ์ที่เยาวชนอายุ 17 ปี เมาสุราแล้วขับรถและเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้จนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก และสะท้อนการบังคับใช้กฎหมายตาม พระราชบัญญัติการควบคุมเครื่องแอลกอฮออล์ พ.ศ. 2551 ยังหละหลวม จึงยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีเป็นตัวอย่าง อาทิ สั่งการให้สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เร่งดำเนินคดีดังกล่าว และขยายผลไปยังร้านค้าที่จำหน่ายสุราให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี พร้อมประกาศเป็นนโยบายให้ทุกคดีที่เป็นผลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ตำรวจต้องดำเนินคดีกับร้านค้าที่จำหน่ายสุราด้วย
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการสั่งการกำชับในเรื่องนี้แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ในความรับผิดชอบของ บช.น.ได้มีการออกมาตรการที่ชัดเจนตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพื่อ ตรวจตราไม่ให้มีร้านเหล้าอยู่ตามสถานศึกษา ซึ่งจากข้อมูลที่ได้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำชับกวดขันให้เจ้าหน้าที่ ดูแลเรื่องของการจำหน่ายสุราให้กับเด็กเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี โดยมีการตรวจตราตลอดอยู่แล้ว ด้วยการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ทุกวันหยุดหรือช่วงเทศกาลสำคัญ ยังพบว่าขณะนี้ข้อมูลที่รายงานเข้ามา ยังคงมีปริมาณไม่มาก ยืนยันว่าจะเร่งกวดขันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีตำรวจ บช.ปส.จับกุมชายชาวต่างชาติผิวดำที่ปัสสาวะเป็นสีม่วงและพบตู้ม้าบริเวณอพาร์ทเม้นท์ซึ่งห่างจาก สน.บางรัก เพียง 20 เมตรนั้น พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 234/2548 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันปราบปรามอบายมุข โดยให้ บช.น.ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวในการเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนั้น การตรวจสอบการทำงานของ สน.บางรักว่าบกพร่องหรือไม่ จึงให้ บช.น.เป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบ รวมทั้งกรณีตู้ม้าบริเวณแฟลตดินแดง มีการรายงานแจ้งเข้ามาว่าผู้ต้องหาสามารถหลบหนีไปได้ ทั้งนี้ จะนำข้อมูลดังกล่าวเพื่อรายงานให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เพื่อสั่งการลงไปเพื่อดูแลต่อไป