พ่อพาทนายความพร้อมบุตรสาวนักเรียนชั้นม.6 เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพระครูระดับรองเจ้าคณะอำเภอในจังหวัดนครพนม ลวนลามบุตรสาว เผย ทำงานเป็นคนขับรถให้วัด โดยพระครูส่งเสียให้บุตรสาวเรียนตั้งแต่อยู่ชั้น ม.3 แต่ไม่น่าเชื่อจะเกิดเหตุฉาวขึ้น ระบุ แจ้งความตำรวจท้องที่แล้ว เพียงแค่ลงบันทึกประจำวัน ด้านทนายเผย เคยร้องเรียนไปยังมหาเถระ และสำนักพุทธฯแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น.นายจันทร์ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาว จ.นครพนม พา น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สวิก นุช เจริญผล พนักงานสอบสวน (สบ3) กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพระครูรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ในข้อหากระทำอนาจารหญิงสาวอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี หลังจาก น.ส.ดาว ถูกเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวกระทำอนาจารเหตุเกิดที่ลานปฏิบัติธรรมของวัดแห่งนี้ และที่บ้านพักของผู้เสียหาย ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน ต่อเนื่องกัน
นายสุกิจ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายจันทร์ ซึ่งมีอาชีพขับรถให้กับทางวัด และภรรยาซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.ดาว ก็ทำหน้าที่เป็นแม่ครัวของวัด ได้พา น.ส.ดาว ไปปฏิบัติธรรม ทำให้ทางเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ได้พบเห็น และมีความเอ็นดูเป็นพิเศษ ซึ่งเดิมที นายจันทร์ ก็ไม่ได้เอะใจ หรือคิดอะไร เพราะเข้าใจว่าทางเจ้าอาวาส ปรารถนาดีต่อบุตรสาว ต่อมาจึงมีการขออุปการะโดยรับผู้เสียหายเป็นบุตรบุญธรรมส่งเสียให้ทุนค่าเล่าเรียน ให้เงินค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีการไปรับ ส่งเรื่อยมาตั้งแต่ผู้เสียหายยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ช่วงที่ไปปฏิบัติธรรมพร้อมกับพุทธศาสนิกชนรายอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่คือ บุตรหลานของผู้ที่มาทำบุญที่วัด ทางเจ้าอาวาสมักจะเข้ามาทำความสนิทสนมกับเด็กสาว และทราบมาว่าเพิ่งมีบุตรกับหญิงสาวรายหนึ่ง โดยเด็กมีอายุเพียง 6 เดือน
นายสุกิจ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของ น.ส.ดาว เคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าอาวาสเคยขอให้ช่วยสอนคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แต่มีพฤติกรรมเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวด้วยการเข้ามาโอบข้างหลัง ทำให้ น.ส.ดาว รู้สึกหวาดกลัวแม้ว่าทางผู้ปกครองเด็กจะรับรู้และได้เข้าแจ้งความที่ สภ.นาแก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจก็เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น โดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่ประสงค์จะยืนยันดำเนินคดี นอกจากนี้ ทางเจ้าอาวาสรายนี้ก็นับว่าเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลในพื้นที่อย่างมาก ที่ผ่านมาตนเคยมีโอกาสเข้าไปดูกุฎิเจ้าอาวาสก็พบว่ามีการตบแต่งไว้อย่างหรูหราเหมือนห้องพักโรงแรมซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสมกับสมณเพศ
นายสุกิจ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากฝ่ายผู้เสียหายแล้ว ก็คิดว่าควรจะแจ้งความที่ บก.ป.มากกว่า และหากทางตำรวจไม่ดำเนินการก็คงจะพิจารณาฟ้องคดีเอง ส่วนการเข้าร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาสรูปนี้ ได้เคยร้องต่อมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนา ไปแล้วแต่เรื่องก็ยังอยู่ระหว่างพิจารณาเนื่องจากพระที่ถูกร้องเรียนเป็นพระผู้ใหญ่นอกจากเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ยังมีสมณศักดิ์เป็นรองเจ้าคณะอำเภออีกด้วย หากมีการเผยแพร่ข่าวออกไปแล้วยังเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกกว่า 30 ราย ที่ถูกกระทำเช่นเดียวกับ น.ส.ดาว ก่อนหน้านี้ทั้งหมด แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น.นายจันทร์ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาว จ.นครพนม พา น.ส.ดาว (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สวิก นุช เจริญผล พนักงานสอบสวน (สบ3) กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพระครูรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ในข้อหากระทำอนาจารหญิงสาวอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี หลังจาก น.ส.ดาว ถูกเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวกระทำอนาจารเหตุเกิดที่ลานปฏิบัติธรรมของวัดแห่งนี้ และที่บ้านพักของผู้เสียหาย ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปัจจุบัน ต่อเนื่องกัน
นายสุกิจ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายจันทร์ ซึ่งมีอาชีพขับรถให้กับทางวัด และภรรยาซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.ดาว ก็ทำหน้าที่เป็นแม่ครัวของวัด ได้พา น.ส.ดาว ไปปฏิบัติธรรม ทำให้ทางเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ได้พบเห็น และมีความเอ็นดูเป็นพิเศษ ซึ่งเดิมที นายจันทร์ ก็ไม่ได้เอะใจ หรือคิดอะไร เพราะเข้าใจว่าทางเจ้าอาวาส ปรารถนาดีต่อบุตรสาว ต่อมาจึงมีการขออุปการะโดยรับผู้เสียหายเป็นบุตรบุญธรรมส่งเสียให้ทุนค่าเล่าเรียน ให้เงินค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีการไปรับ ส่งเรื่อยมาตั้งแต่ผู้เสียหายยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ช่วงที่ไปปฏิบัติธรรมพร้อมกับพุทธศาสนิกชนรายอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่คือ บุตรหลานของผู้ที่มาทำบุญที่วัด ทางเจ้าอาวาสมักจะเข้ามาทำความสนิทสนมกับเด็กสาว และทราบมาว่าเพิ่งมีบุตรกับหญิงสาวรายหนึ่ง โดยเด็กมีอายุเพียง 6 เดือน
นายสุกิจ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของ น.ส.ดาว เคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าอาวาสเคยขอให้ช่วยสอนคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แต่มีพฤติกรรมเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวด้วยการเข้ามาโอบข้างหลัง ทำให้ น.ส.ดาว รู้สึกหวาดกลัวแม้ว่าทางผู้ปกครองเด็กจะรับรู้และได้เข้าแจ้งความที่ สภ.นาแก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจก็เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น โดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่ประสงค์จะยืนยันดำเนินคดี นอกจากนี้ ทางเจ้าอาวาสรายนี้ก็นับว่าเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลในพื้นที่อย่างมาก ที่ผ่านมาตนเคยมีโอกาสเข้าไปดูกุฎิเจ้าอาวาสก็พบว่ามีการตบแต่งไว้อย่างหรูหราเหมือนห้องพักโรงแรมซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสมกับสมณเพศ
นายสุกิจ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากฝ่ายผู้เสียหายแล้ว ก็คิดว่าควรจะแจ้งความที่ บก.ป.มากกว่า และหากทางตำรวจไม่ดำเนินการก็คงจะพิจารณาฟ้องคดีเอง ส่วนการเข้าร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาสรูปนี้ ได้เคยร้องต่อมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนา ไปแล้วแต่เรื่องก็ยังอยู่ระหว่างพิจารณาเนื่องจากพระที่ถูกร้องเรียนเป็นพระผู้ใหญ่นอกจากเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ ยังมีสมณศักดิ์เป็นรองเจ้าคณะอำเภออีกด้วย หากมีการเผยแพร่ข่าวออกไปแล้วยังเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกกว่า 30 ราย ที่ถูกกระทำเช่นเดียวกับ น.ส.ดาว ก่อนหน้านี้ทั้งหมด แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความดำเนินคดี