"เจ๋ง ดอกจิก” ไม่มาขึ้นศาลตามหมายเรียกตักเตือน เหตุจะพาพวกรุมทำร้าย “วัชระ เพชรทอง” ในศาล อ้างติดภารกิจหลายที่ ทั้งเชียงใหม่และพิษณุโลก ขณะที่ทนายความพร้อมจะนำตัว "เจ๋ง ดอกจิก" มาศาล 29 ก.ค.นี้ ด้าน “จตุพร” ถูกเบิกตัวมาขึ้นศาลในคดี “วัชระ” หมิ่นเป็นคนไม่ดี ก้มหัวรับใช้ “แม้ว” โดยมี “ณัฐวุฒิ” มาเป็นพยานเบิกความช่วย ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งต่อไป 29 ก.ค.
วันนี้ (26 ก.ค.) จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 54 ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ครั้งแรก คดีหมายเลขดำที่ อ.3856/2552 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นโจทก์ฟ้องนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, บริษัท สารสู่อนาคต จำกัด และนายทวีสิน สถิตรัตนชีวิน บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ไทยโพสต์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 กรณีวันที่ 24-25 ก.ย.52 จำเลยมีเจตนากล่าวหาให้ประชาชนเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนนิสัยไม่ดี ไม่เป็นไทแก่ตัวเองต้องคอยกระทำการไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกคำสั่ง
โดยในวันดังกล่าว นายวัชระ จำเลยที่ 1 ได้แถลงต่อหน้าศาลว่าเมื่อศาลได้พักการพิจารณาในช่วงเวลา 12.00 น. และเมื่อศาลลงจากบัลลังก์แล้ว ขณะจำเลยที่ 1 ผลักประตูจะเดินออกจากห้องพิจารณา ซึ่งได้ชนกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แนวร่วม นปช. และจำเลยร่วมแกนนำ นปช.ในคดีก่อการร้าย โดยนายยศวริศแสดงท่าทางจะทำร้าย ซึ่งโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลช่วยกันไว้ ขณะที่มีบุคคลที่สวมเสื้อแดงพูดกับจำเลยที่ 1 ว่า มองหน้าลูกพี่กูทำไม ซึ่งจำเลยที่ 1 ไม่ประสงค์จะให้เกิดเรื่องจึงเดินหนีออกจากห้องพิจารณา
โดยศาลได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยืนยันว่ามีเหตุการณ์ตามที่จำเลยที่ 1 แถลง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการกระทำของนายยศวริศ เป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม แต่ไม่ถึงขนาดเป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่ขณะที่ศาลพิจารณาเรื่องนี้นายยศวริศ ไม่อยู่ในบริเวณศาลแล้ว จึงเห็นควรให้ออกหมายเรียกนายยศวริศมาเพื่อกล่าวตักเตือน
โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพรแถลงต่อศาลว่าขอประสานนายยศวริศมาพบศาลในวันที่ 26 ก.ค.นี้
ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ศาลออกหมายเรียกให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แนวร่วม นปช.มาพบเพื่อตักเตือนในเรื่องดังกล่าว แต่นายยศวริศไม่ได้เดินทางมาศาล ซึ่งนายวิญญัติ แถลงต่อศาลว่า นายยศวริศ ติดภารกิจเดินทางไปทำกิจกรรมร่วมกับคนเสื้อแดง ที่จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก จึงไม่สามารถเดินทางมาได้ และจะตามนายยศวริศมาพบศาลอีกครั้งในวันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ส่วนการสืบพยานจำเลยที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ยื่นฟ้องนายวัชระ เพชรทอง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในวันนี้นายจตุพรถูกคุมตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมาศาล โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.เดินทางมาเบิกความเป็นพยานฝ่ายโจทก์ โดยยืนยันว่านายจตุพรไม่ได้เป็นตามที่ถูกกล่าวหา การให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของจำเลยนั้นเป็นการกล่าวหานายจตุพรให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาศาลจึงนัดสืบพยานจำเลย ครั้งต่อไป วันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
วันนี้ (26 ก.ค.) จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 54 ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ครั้งแรก คดีหมายเลขดำที่ อ.3856/2552 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นโจทก์ฟ้องนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, บริษัท สารสู่อนาคต จำกัด และนายทวีสิน สถิตรัตนชีวิน บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ไทยโพสต์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 กรณีวันที่ 24-25 ก.ย.52 จำเลยมีเจตนากล่าวหาให้ประชาชนเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนนิสัยไม่ดี ไม่เป็นไทแก่ตัวเองต้องคอยกระทำการไปตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกคำสั่ง
โดยในวันดังกล่าว นายวัชระ จำเลยที่ 1 ได้แถลงต่อหน้าศาลว่าเมื่อศาลได้พักการพิจารณาในช่วงเวลา 12.00 น. และเมื่อศาลลงจากบัลลังก์แล้ว ขณะจำเลยที่ 1 ผลักประตูจะเดินออกจากห้องพิจารณา ซึ่งได้ชนกับนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แนวร่วม นปช. และจำเลยร่วมแกนนำ นปช.ในคดีก่อการร้าย โดยนายยศวริศแสดงท่าทางจะทำร้าย ซึ่งโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลช่วยกันไว้ ขณะที่มีบุคคลที่สวมเสื้อแดงพูดกับจำเลยที่ 1 ว่า มองหน้าลูกพี่กูทำไม ซึ่งจำเลยที่ 1 ไม่ประสงค์จะให้เกิดเรื่องจึงเดินหนีออกจากห้องพิจารณา
โดยศาลได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยืนยันว่ามีเหตุการณ์ตามที่จำเลยที่ 1 แถลง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการกระทำของนายยศวริศ เป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม แต่ไม่ถึงขนาดเป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่ขณะที่ศาลพิจารณาเรื่องนี้นายยศวริศ ไม่อยู่ในบริเวณศาลแล้ว จึงเห็นควรให้ออกหมายเรียกนายยศวริศมาเพื่อกล่าวตักเตือน
โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายจตุพรแถลงต่อศาลว่าขอประสานนายยศวริศมาพบศาลในวันที่ 26 ก.ค.นี้
ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ศาลออกหมายเรียกให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แนวร่วม นปช.มาพบเพื่อตักเตือนในเรื่องดังกล่าว แต่นายยศวริศไม่ได้เดินทางมาศาล ซึ่งนายวิญญัติ แถลงต่อศาลว่า นายยศวริศ ติดภารกิจเดินทางไปทำกิจกรรมร่วมกับคนเสื้อแดง ที่จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก จึงไม่สามารถเดินทางมาได้ และจะตามนายยศวริศมาพบศาลอีกครั้งในวันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ส่วนการสืบพยานจำเลยที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ยื่นฟ้องนายวัชระ เพชรทอง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในวันนี้นายจตุพรถูกคุมตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมาศาล โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.เดินทางมาเบิกความเป็นพยานฝ่ายโจทก์ โดยยืนยันว่านายจตุพรไม่ได้เป็นตามที่ถูกกล่าวหา การให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของจำเลยนั้นเป็นการกล่าวหานายจตุพรให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาศาลจึงนัดสืบพยานจำเลย ครั้งต่อไป วันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
