เมียรองสารวัตร สภ.เมืองนนทบุรี วิตกกังวลอ้างเจ้าแม่ไทรทอง ที่แฟลตตำรวจ มาเข้าฝันจะเอาชีวิต หากพักที่ดังกล่าว แม้สามีจะพานำสไบถวายแก้ไปแล้ว ยังไม่วายวิตก จนก่อเหตุใช้ปืน 9 มม.ของสามี ยิงลูกสาววัย 5 ขวบสาหัส แล้วยิงตัวตายตาม ขณะที่ญาติผู้ตาย เผย เจ้าตัววิตกกลัวเจ้าแม่ไทรทอง จะมาเอาชีวิต จึงก่อเหตุสลด ด้าน ผบก.ภ.นนทบุรี เตรียมพาลูกน้องทำพิธีขอขมาศาลเจ้าแม่ไทรทอง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งภรรยาของ ร.ต.อ.คมชาญ คงกล้า รองสวป.สภ.เมืองนนทบุรี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงบุตรสาว ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ในห้องพักแฟลตตำรวจของ สภ.เมืองนนทบุรี
หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงาน พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ อาคารที่พักแฟลตตำรวจ 5 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ในโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี ที่ห้องพักเลขที่ 100/11 หมู่ 3 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยพบกองคราบเลือดอยู่บนพื้นเสื่อน้ำมันในห้องพัก มีผ้าห่มเปื้อนเลือดกองอยู่กับกองคราบเลือดด้วย นอกจากนี้ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่พื้น จำนวน 2 ปลอก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ส่วน นางศิรภัทร คงกล้า อายุ 31 ปี ภรรยาของ ร.ต.อ.คมชาญ และ ด.ญ.แพรพิไล หรือ น้องบีม บุตรสาว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าแล้ว
โดยในเวลาต่อมา พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อสอบสวนสาเหตุในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อ.คมชาญ กำลังอาบน้ำอยู่ โดยมี นางศิรภัทร ภรรยา และ ด.ญ.แพรพิไล บุตรสาวนอนดูหนังผ่านเครื่องซีดีอยู่บนเตียง ระหว่างที่ ร.ต.อ.คมชาญ กำลังอาบน้ำอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 2 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดู ซึ่งพบว่า ด.ญ.แพรพิไล บุตรสาวนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น พร้อมกับร่างของนางศิรภัทรภรรยา ซึ่งมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กกหูขวา นอนหายใจรวยรินอยู่ใกล้ๆ กัน จึงแจ้งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าไปช่วยเหลือนางศิรภัทร ที่นอนจมกองเลือด แต่ยังหายใจรวยรินอยู่ในห้องพักมาทำการรักษาช่วยเหลือชีวิต แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึถึงห้องไอ.ซี.ยู.ได้ไม่นาน นางศิรภัทร ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ญ.แพรพิไล ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านั้น อาการยังโคม่า แพทย์ต้องเร่งผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน
อย่างไรก็ตาม ญาติของนางศิรภัทร ให้การว่า ก่อนหน้าที่ ร.ต.อ.คมชาญ จะย้ายมาเป็น รอง สวป.เมืองนนทบุรีนั้น เคยรับตำแหน่งเป็น รองสารวัตรจราจร สน.นางเลิ้ง มาก่อน จนกระทั่งเมื่อย้ายมารับตำแหน่ง รองสวป.สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อเดือนที่ผ่านมาจึงได้ห้องพักที่แฟลตตำรวจดังกล่าวในโรงพัก ซึ่งระหว่างที่ย้ายมาเข้าอยู่อาศัยนั้น นางศิรภัทรเกิดอาการวิตกหวาดกลัวว่า ศาลเจ้าแม่ไทรทองที่ตั้งอยู่ในโรงพักมาเข้าฝัน บอกว่า ไม่ให้ นางศิรภัทร กับลูกสาวมาพักอาศัยอยู่ที่นี้ ไม่อย่างนั้นจะมาเอาชีวิต ทำให้ นางศิรภัทร หวาดกลัวจึงปรึกษากับ ร.ต.อ.คมชาญ ผู้เป็นสามี ว่า อยากให้ ร.ต.อ.คมชาญ ย้ายกลับไปอยู่บ้านพักที่บางบัวทองแทน แต่ ร.ต.อ.คมชาญ ไม่อยากย้ายกลับไปบ้านพักที่บางบัวทอง เนื่องจากเห็นว่า บุตรสาว วัย 5 ขวบ ต้องเข้าเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลนนทบุรี ใกล้กับที่ทำงาน จึงไม่อยากย้ายกลับไปอยู่บ้านที่บางบัวทอง ซึ่งทำให้ นางศิรภัทร ไม่ยอมพักอยู่แฟลตดังกล่าว ต้องเดินทางไปกลับระหว่างบ้านพักบางบัวทองกับห้องพักของสามี
ต่อมา นางศิรภัทร จึงมาปรึกษากับ ร.ต.อ.คมชาญ ผู้เป็นสามีอีกว่า ยังนอนฝันถึงเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง ที่โรงพักอยู่อีก จึงอยากไปขอขมากับเจ้าแม่ไทรทอง ทาง ร.ต.อ.คมชาญ จึงพานางศิรภัทร ไปซื้อสไบมาแก้บนกับศาลเจ้าแม่ไทรทอง เพื่อให้นางศิรภัทร เกิดความสบายใจ แต่หลังจากที่นำสไบไปถวายกับเจ้าแม่ไทรทองแล้ว นางศิรภัทร ก็ยังคงนอนฝันถึงเจ้าแม่ไทรทองอยู่เรื่อยๆ และยังคงมีอาการหวาดกลัวอยู่อีก จึงไม่ยอมพักอาศัยที่แฟลตตำรวจกับสามี ซึ่ง ร.ต.อ.คมชาญ ก็ยังคงปลอบใจว่า ไปขอขมาแก้บนกับเจ้าแม่ไทรทองมาแล้ว คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ นางศิรภัทร ได้เคยพูดเป็นลางกับครอบครัวไว้ ว่า ต่อไปเธอกับลูกจะไม่มาอยู่ที่ห้องนี้แล้ว จะปล่อยให้สามีอยู่คนเดียวตามลำพัง ซึ่งก็ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า คำพูดของ นางศิรภัทร ที่พูดออกมา จะหมายถึงการก่อเหตุยิงลูกสาวและตัวเอง เพราะความวิตกจริตเกี่ยวกับเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง จนถึงขั้นก่อเหตุฉวยจังหวะที่สามีเผลอเข้าห้องน้ำ นำอาวุธปืนกล็อกขนาด 9 มม.ซึ่งเป็นปืนประจำตำแหน่งของสามี มาจ่อยิงลูกสาวและยิงตัวเองเพื่อให้ตายตาม
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้เวลา 08.40 น.ตนจะเดินทางไปทำพิธีขอขมาศาลเจ้าแม่ไทรทอง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ เพราะที่ผ่านมา อาจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนไปทำอะไรที่ไม่ดีไว้ หรือไปล่วงเกินศาลเจ้าแม่ไทรทองโดยไม่รู้ตัว จึงต้องทำพิธีขอขมากับศาลเจ้าแม่ไทรทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งโรงพัก
วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งภรรยาของ ร.ต.อ.คมชาญ คงกล้า รองสวป.สภ.เมืองนนทบุรี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงบุตรสาว ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ในห้องพักแฟลตตำรวจของ สภ.เมืองนนทบุรี
หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงาน พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ อาคารที่พักแฟลตตำรวจ 5 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ในโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี ที่ห้องพักเลขที่ 100/11 หมู่ 3 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยพบกองคราบเลือดอยู่บนพื้นเสื่อน้ำมันในห้องพัก มีผ้าห่มเปื้อนเลือดกองอยู่กับกองคราบเลือดด้วย นอกจากนี้ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่พื้น จำนวน 2 ปลอก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ส่วน นางศิรภัทร คงกล้า อายุ 31 ปี ภรรยาของ ร.ต.อ.คมชาญ และ ด.ญ.แพรพิไล หรือ น้องบีม บุตรสาว ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าแล้ว
โดยในเวลาต่อมา พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อสอบสวนสาเหตุในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อ.คมชาญ กำลังอาบน้ำอยู่ โดยมี นางศิรภัทร ภรรยา และ ด.ญ.แพรพิไล บุตรสาวนอนดูหนังผ่านเครื่องซีดีอยู่บนเตียง ระหว่างที่ ร.ต.อ.คมชาญ กำลังอาบน้ำอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 2 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดู ซึ่งพบว่า ด.ญ.แพรพิไล บุตรสาวนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น พร้อมกับร่างของนางศิรภัทรภรรยา ซึ่งมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กกหูขวา นอนหายใจรวยรินอยู่ใกล้ๆ กัน จึงแจ้งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าไปช่วยเหลือนางศิรภัทร ที่นอนจมกองเลือด แต่ยังหายใจรวยรินอยู่ในห้องพักมาทำการรักษาช่วยเหลือชีวิต แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึถึงห้องไอ.ซี.ยู.ได้ไม่นาน นางศิรภัทร ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ญ.แพรพิไล ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านั้น อาการยังโคม่า แพทย์ต้องเร่งผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน
อย่างไรก็ตาม ญาติของนางศิรภัทร ให้การว่า ก่อนหน้าที่ ร.ต.อ.คมชาญ จะย้ายมาเป็น รอง สวป.เมืองนนทบุรีนั้น เคยรับตำแหน่งเป็น รองสารวัตรจราจร สน.นางเลิ้ง มาก่อน จนกระทั่งเมื่อย้ายมารับตำแหน่ง รองสวป.สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อเดือนที่ผ่านมาจึงได้ห้องพักที่แฟลตตำรวจดังกล่าวในโรงพัก ซึ่งระหว่างที่ย้ายมาเข้าอยู่อาศัยนั้น นางศิรภัทรเกิดอาการวิตกหวาดกลัวว่า ศาลเจ้าแม่ไทรทองที่ตั้งอยู่ในโรงพักมาเข้าฝัน บอกว่า ไม่ให้ นางศิรภัทร กับลูกสาวมาพักอาศัยอยู่ที่นี้ ไม่อย่างนั้นจะมาเอาชีวิต ทำให้ นางศิรภัทร หวาดกลัวจึงปรึกษากับ ร.ต.อ.คมชาญ ผู้เป็นสามี ว่า อยากให้ ร.ต.อ.คมชาญ ย้ายกลับไปอยู่บ้านพักที่บางบัวทองแทน แต่ ร.ต.อ.คมชาญ ไม่อยากย้ายกลับไปบ้านพักที่บางบัวทอง เนื่องจากเห็นว่า บุตรสาว วัย 5 ขวบ ต้องเข้าเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลนนทบุรี ใกล้กับที่ทำงาน จึงไม่อยากย้ายกลับไปอยู่บ้านที่บางบัวทอง ซึ่งทำให้ นางศิรภัทร ไม่ยอมพักอยู่แฟลตดังกล่าว ต้องเดินทางไปกลับระหว่างบ้านพักบางบัวทองกับห้องพักของสามี
ต่อมา นางศิรภัทร จึงมาปรึกษากับ ร.ต.อ.คมชาญ ผู้เป็นสามีอีกว่า ยังนอนฝันถึงเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง ที่โรงพักอยู่อีก จึงอยากไปขอขมากับเจ้าแม่ไทรทอง ทาง ร.ต.อ.คมชาญ จึงพานางศิรภัทร ไปซื้อสไบมาแก้บนกับศาลเจ้าแม่ไทรทอง เพื่อให้นางศิรภัทร เกิดความสบายใจ แต่หลังจากที่นำสไบไปถวายกับเจ้าแม่ไทรทองแล้ว นางศิรภัทร ก็ยังคงนอนฝันถึงเจ้าแม่ไทรทองอยู่เรื่อยๆ และยังคงมีอาการหวาดกลัวอยู่อีก จึงไม่ยอมพักอาศัยที่แฟลตตำรวจกับสามี ซึ่ง ร.ต.อ.คมชาญ ก็ยังคงปลอบใจว่า ไปขอขมาแก้บนกับเจ้าแม่ไทรทองมาแล้ว คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ นางศิรภัทร ได้เคยพูดเป็นลางกับครอบครัวไว้ ว่า ต่อไปเธอกับลูกจะไม่มาอยู่ที่ห้องนี้แล้ว จะปล่อยให้สามีอยู่คนเดียวตามลำพัง ซึ่งก็ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า คำพูดของ นางศิรภัทร ที่พูดออกมา จะหมายถึงการก่อเหตุยิงลูกสาวและตัวเอง เพราะความวิตกจริตเกี่ยวกับเรื่องเจ้าแม่ไทรทอง จนถึงขั้นก่อเหตุฉวยจังหวะที่สามีเผลอเข้าห้องน้ำ นำอาวุธปืนกล็อกขนาด 9 มม.ซึ่งเป็นปืนประจำตำแหน่งของสามี มาจ่อยิงลูกสาวและยิงตัวเองเพื่อให้ตายตาม
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้เวลา 08.40 น.ตนจะเดินทางไปทำพิธีขอขมาศาลเจ้าแม่ไทรทอง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ เพราะที่ผ่านมา อาจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนไปทำอะไรที่ไม่ดีไว้ หรือไปล่วงเกินศาลเจ้าแม่ไทรทองโดยไม่รู้ตัว จึงต้องทำพิธีขอขมากับศาลเจ้าแม่ไทรทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งโรงพัก
