xs
xsm
sm
md
lg

“ศักดิ์ชัย กาย” รับทรัพย์ 300 ล้าน ศาลชี้พินัยกรรมจริง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศักดิ์ชัย กาย บก.นิตยสารลิปส์ หลุดคดีทำพินัยกรรมปลอม รับทรัพย์อื้อ 300 ล้าน
“ศักดิ์ชัย กาย” บก.นิตยสารลิปส์ หลุดคดีทำพินัยกรรมปลอม รับทรัพย์อื้อ 300 ล้าน ศาลระบุพินัยกรรมฉบับดังกล่าวที่ นายวิวรรธน์ ทำขึ้น เป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริง พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายจำเลย พิพากษายกฟ้อง

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายธีรวัต ณ ป้อมเพชร เป็นโจทก์ฟ้อง นายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิปส์ และนักจัดดอกไม้ชื่อดัง เป็นจำเลย เรื่อง ขอให้ศาลมีคำสั่งทำลายพินัยกรรมของ นายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร บิดา นายธีรวัต โจทก์ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2548 นายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร บิดาโจทก์ อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ซึ่งมีอายุ 90 ปี เดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น และมีอาการป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่ รพ.สมิติเวช โดยจำเลยกับพวกได้ร่วมกันทําหนังสือฉบับหนึ่ง ระบุว่า เป็นพินัยกรรม มีข้อความว่า นายวิวรรธน์ มีคำสั่งให้ยกเลิกพินัยกรรมเดิมของ นายวิวรรธน์ ที่ทํามาก่อนหน้านี้ และต้องการยกทรัพย์สิน คือ ที่ดิน 3 ไร่ ย่านยานนาวา กทม.พร้อมอาคารและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งห้องชุดเลขที่ 3 จี คอนโดมิเนียมการ์เด้น คลิฟ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ให้แก่จำเลย

ต่อมาในวันที่ 16 ก.ย.2549 นายวิสูตร กาญจนปัญญาพงศ์ พยานผู้ลงลายมือชื่อในพินัยกรรม ได้มีหนังสือถึงโจทก์ให้ดำเนินการขอรับพินัยกรรมจากสำนักงานเขตราชเทวี เพื่อดำเนินการตามข้อกำหนดในพินัยกรรม ทั้งที่โจทก์และทายาทรวมทั้งญาติพี่น้องของนายวิวรรธน์ ไม่มีใครทราบมาก่อนว่า นายวิวรรธน์ ได้ทําพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น รวมทั้งไม่มีใครรู้จักนายสุทิน โชติสิงห์ และ น.ส.ศจีมาศ อภิชโยดม นายวิสูตร กาญจนปัญญาพงศ์ ซึ่งลงชื่อเป็นพยาน และผู้พิมพ์ ตลอดจนสำนักกฎหมายธรรมนิติ ทั้งที่พินัยกรรมฉบับนี้ไม่ใช่พินัยกรรมลับ เพราะ นายวิวรรธน์ มิได้ผนึกซองพินัยกรรมและลงลายมือชื่อด้วยตัวเอง แล้วนำซองพินัยกรรมไปแสดงต่อผู้อำนวยการเขตราชเทวี หรือผู้กระทําการแทน นอกจากนี้ ในพินัยกรรมดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังไม่มีแพทย์รับรองว่า นายวิวรรธน์ มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ในขณะทําพินัยกรรม ทั้งลักษณะลายมือชื่อของนายวิวรรธน์ในพินัยกรรมก็ไม่ใช่ลายมือที่แท้จริง เชื่อว่านายวิวรรธน์ ไม่มีเจตนาอันแท้จริงจะยกทรัพย์สินให้จำเลย พินัยกรรมดังกล่าวจึงเป็นพินัยกรรมปลอม ไม่มีผลตามกฎหมายการกระทําของจำเลยซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติ หรือครอบครัวกับนายวิวรรธน์ หรือตระกูล ณ ป้อมเพชร ทําให้โจทก์กับทายาทได้รับความเสียหาย ไม่สามารถดำเนินการรับทรัพย์มรดกของนายวิวรรธน์ ที่แบ่งให้กับทายาทคนอื่นได้ จึงขอให้ศาลโปรดมีคำสั่งทําลายพินัยกรรมปลอมฉบับดังกล่าวด้วย

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย จากพยานหลักฐานโจทก์ 5 ปาก และพยานจำเลย 6 ปากซึ่งนำเข้าสืบหักล้าง และพยานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบลายมือชื่อ แล้ว ฟังได้ว่า พินัยกรรมฉบับดังกล่าวที่นายวิวรรธน์ ทำขึ้น ซึ่งเป็นเอกสารลับนั้น เป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริง พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานฝ่ายจำเลยได้ พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการฟังคำพิพากษาในวันนี้นั้น คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่ได้เดินทางมาฟังด้วยตัวเอง คงมีเพียงเสมียนทนายความมาฟังคำพิพากษาแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น