รวบเครือข่ายค้ายาเรือนจำลาดยาว ควบ จยย.มากับแฟนสาว แต่เจอด่านตรวจกะขับย้อนศรหลบหนี แต่โชคไม่เข้าข้าง รถล้ม โดนควบคุมตัวได้ทั้งของกลางยาบ้า-ยาไอซ์ สารภาพเพิ่งออกจากคุก ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เลยรับจ๊อบส่งยาเหมือนที่เคยทำ บอกแฟนไม่เกี่ยวข้องกับงานนี้ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 พล.ต.ต.เฉลิมพันธ์ อจลบุญ ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีระศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบก.น.8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม แถลงผลการจับกุม นายชัยพร หรือ หน่อง ทะยะราษฎ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/1 หมู่ที่ 8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 1 ห่อ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ยาบ้า 20,000 เม็ด เงินสด 13,860 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยจับกุมได้บริเวณถนนพญาไม้ ใต้สะพานพระปกเกล้า
พล.ต.ต.เฉลิมพันธ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการกวดขันจับกุมผู้ค้ายาเสพติดตามนโยบายยุทธการ 315 โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ สน.บุปผาราม ได้ตั้งด่านตรวจอยู่ใต้สะพานพระปกเกล้า พบ นายชัยพร ขับรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนผ่านมา โดยมี น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซ้อนท้ายมาด้วย จากนั้นเมื่อ นายชัยพร เจอด่านตรวจได้ขับรถ จยย.ย้อนศรหลบหนี ทำให้รถ จยย.เสียหลักล้มลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นกระเป๋าสะพาย พบยาเสพติดมีทั้งยาบ้าและยาไอซ์ จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวน นายชัยพร ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง แต่รับจ๊อบส่งยาเสพติดจากนายแจ๊ค ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกันในเรือนจำลาดยาว สมัยที่ตนต้องโทษคดียาเสพติด โดยจะไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆ ที่มีคนนำมาทิ้งไว้ให้ โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 6,000 บาท จากนั้นจะนำของไปส่งตามจุดที่นายแจ๊คโทรศัพท์มาบอก ทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งนี้ไปรับยาเสพติดมาจากท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.นนทบุรี แต่มาเจอด่านตรวจก่อน ส่วน น.ส. ตุ๊กตา เป็นแฟนสาวไม่ได้เกี่ยวข้อง เพียงแค่ซ้อนท้ายมาด้วยเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นคดียาเสพติดทั้งหมด ซึ่งล่าสุดเพิ่งจะพ้นโทษเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้จะไปทำงานอะไร จึงกลับมาส่งยาเสพติดเหมือนเดิม
ด้าน พ.ต.อ.จีระศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ สน.บุปผาราม ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุมากกว่า 2 ครั้ง เพราะมีประวัติพัวพันกับคดียาเสพติดมาตลอด โดยหลังจากนี้ จะสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะสลับกันส่งยาเสพติดกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ส่วนแฟนสาวเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าและยาไอซ์ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 พล.ต.ต.เฉลิมพันธ์ อจลบุญ ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีระศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบก.น.8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม แถลงผลการจับกุม นายชัยพร หรือ หน่อง ทะยะราษฎ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/1 หมู่ที่ 8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 1 ห่อ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ยาบ้า 20,000 เม็ด เงินสด 13,860 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โดยจับกุมได้บริเวณถนนพญาไม้ ใต้สะพานพระปกเกล้า
พล.ต.ต.เฉลิมพันธ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากการกวดขันจับกุมผู้ค้ายาเสพติดตามนโยบายยุทธการ 315 โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ สน.บุปผาราม ได้ตั้งด่านตรวจอยู่ใต้สะพานพระปกเกล้า พบ นายชัยพร ขับรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนผ่านมา โดยมี น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซ้อนท้ายมาด้วย จากนั้นเมื่อ นายชัยพร เจอด่านตรวจได้ขับรถ จยย.ย้อนศรหลบหนี ทำให้รถ จยย.เสียหลักล้มลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นกระเป๋าสะพาย พบยาเสพติดมีทั้งยาบ้าและยาไอซ์ จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน
จากการสอบสวน นายชัยพร ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง แต่รับจ๊อบส่งยาเสพติดจากนายแจ๊ค ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกันในเรือนจำลาดยาว สมัยที่ตนต้องโทษคดียาเสพติด โดยจะไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆ ที่มีคนนำมาทิ้งไว้ให้ โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 6,000 บาท จากนั้นจะนำของไปส่งตามจุดที่นายแจ๊คโทรศัพท์มาบอก ทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งนี้ไปรับยาเสพติดมาจากท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.นนทบุรี แต่มาเจอด่านตรวจก่อน ส่วน น.ส. ตุ๊กตา เป็นแฟนสาวไม่ได้เกี่ยวข้อง เพียงแค่ซ้อนท้ายมาด้วยเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นคดียาเสพติดทั้งหมด ซึ่งล่าสุดเพิ่งจะพ้นโทษเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้จะไปทำงานอะไร จึงกลับมาส่งยาเสพติดเหมือนเดิม
ด้าน พ.ต.อ.จีระศักดิ์ กล่าวว่า ต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ สน.บุปผาราม ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุมากกว่า 2 ครั้ง เพราะมีประวัติพัวพันกับคดียาเสพติดมาตลอด โดยหลังจากนี้ จะสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะสลับกันส่งยาเสพติดกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ส่วนแฟนสาวเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าและยาไอซ์ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย