ตร.เชื่อมั่นโค้งสุดท้ายเลือกตั้งเรียบร้อย

ตำรวจพร้อมเต็มร้อยในการดูแลรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้ง ทั้งหน่วยเลือกตั้ง ผู้สมัคร และหัวคะแนน นอกเหนือจากกำลังตำรวจกว่า 1 แสนนนายแล้ว ยังใช้หน่วยจู่โจม ชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ทันทีที่เกิดเหตุ เชื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะในช่วงโค้ง 5 วันสุดท้าย

วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์อำนวยการความสงบเรียบร้อย การเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร) เปิดเผยเรื่องการหารือหลังการประชุมสรุปผลการดูแลรักษาความปลอดภัยช่วง 5 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.ว่า จากการประเมินสถานการณ์พื้นที่เฝ้าระวัง จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง 375 เขต เป็นพื้นที่เฝ้าระวังทั้งหมด 61 เขต 25 จังหวัด จัดกำลังตำรวจจากส่วนกลาง กองบัญชาการกองปราบปราม หน่วยคอมมานโด ลงพื้นที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ รวมทั้งสิ้น 170,186 นาย โดยใช้กำลังตำรวจในการรักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง 90,854 หน่วย ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานไปขอเพิ่มขึ้นมา 80 หน่วย โดยใช้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 98,431 นาย ซึ่งมีกำลังสนับสนุนอีกกว่า 70,000 นาย และเป็นชุดปฏิบัติการจากกองบัญชาการกองปราบปราม หน่วยจู่โจม ชุดเคลื่อนที่เร็วอีก 4,200 นาย ซึ่งส่วนที่เหลือ 31,000 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจและดูแลเรื่องของการจราจร จนกระทั้งถึงวันนี้มีผู้สมัครร้องของการอารักขาเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 428 ราย ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 918 นาย

พล.ต.อ พงศพัศกล่าวต่อว่า การส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวของผู้สมัครส.ส.ทั้งหมด หลังจากมีการประเมินการติดตามสถานการณ์เพื่อติดตามดูแลจนกระทั่งถึงวันที่ 7 ก.ค. ซึ่งต้องรอการประชุมหารืออีกครั้งหลังจากการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.เสร็จสิ้น ว่าจะให้ดูแลผู้สมัครส.ส.จาก 12 พรรคการเมืองหรือหัวคะแนนที่คิดว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายหลังจากวันดังกล่าวหรือไม่ นอกจากนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ยังกำชับให้ตำรวจทุกนายที่ติดตามดูแลผู้สมัครส.ส.หรือหัวคะแนนทุกพรรคการเมืองเฝ้าระวังมากขึ้นในช่วงที่จะถึงการเลือกตั้ง พร้อมกับรายข่าวที่คาดว่าจะทำให้เกิดความรุนแรงมายังศูนย์อำนวยการรักษความสงบเรียบร้อยแต่ละพื้นที่ เพื่อเตรียมการรับมือป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น อีกทั้งในวันที่ 1 ก.ค. ก่อนวันเลือกตั้งเป็นช่วงของการปราศรัยหาเสียงใหญ่ครั้งสุดท้ายของทุกพรรคการเมือง จึงได้สั่งการให้มีการตรวจตราเฝ้าระวังจับตา เพื่อดูแลความปลอดภัยกับผู้สมัครที่ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง พร้อมทั้งประชาชนหรือผู้ที่จะเข้ามารับฟังการปราศรัยหาเสียงให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

สำหรับการขนส่งบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งหมด 1,474,240 ใบ พล.ต.อ พงศพัศกล่าวว่า ขณะนี้บัตรทั้งหมดได้ถูกขนส่งไปไว้ที่ไปรษณีย์หลักสี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้การขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตต่างประเทศทั้งหมด 66 ประเทศ 91 เมือง ได้มาถึงแล้วทั้งหมด 38 ประเทศ 51 เมือง ยังคงต้องรออีก 28 ประเทศ 20 เมือง ที่จะมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วขนส่งไปเพื่อคัดแยกเพื่อส่งกลับไปยังหน่วยเลือกตั้งที่อยู่ในการดูแลของกกต.จังหวัดต่างๆ ซึ่งทาง กกต.ยืนยันว่าจะพยายามเร่งการขนส่งให้ทันก่อนวันเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นบัตรที่ยังมาไม่ถึงจะกลายเป็นบัตรเสียไป

“ส่วนใหญ่ยังคงมีความเคลื่อนไหวของมือปืนรับจ้างอยู่บ้าง แต่ยืนยันตำรวจยังคงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของความคัดแย่งกันระหว่างนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งหลังจากวันที่ 7 ก.ค.จะค่อยๆ ลดระดับความเข้มข้นในการดูแล ยกเว้นกรณีที่เชื่อว่าหัวคะแนนจะถูกประทุษร้ายก็จะจับตาดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะได้รับความปลอดภัย” พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวทิ้งท้าย