00...คำว่า “สองมาตรฐาน” ถือเป็นความเชื่อที่ฝังลึกอยู่ในหัวกะโหลกสี่เหลี่ยมของ “ทักษิณ ชินวัตร” และข้าทาสเสื้อแดง ถึงขั้นนายใหญ่เคยพูดเข้าข้างตนเองว่า...(ผมไม่ผิด แต่กฎหมายเขียนไว้ผิด)...ทำให้เหล่าสาวกเสื้อแดงเชื่อสนิทใจว่า...นายใหญ่ของเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาล ทุกศาลในประเทศนี้
ขณะที่บรรดาผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรค “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ต่างยืนยันกับประชาชนเป็นเสียงเดียวกันว่านายใหญ่ของเขาไม่ได้กระทำความผิด แต่ถูกกลั่้นแกล้ง พร้อมอ้อนวอนขอความเห็นใจจากคนรักทักษิณ ให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อพาทักษิณ กลับบ้าน
ทำให้ข่าว “เอม พินทองทา” ลูกสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศจะแต่งงานในเดือนธันวาคมนี้ กับเจ้าบ่าวอาชีพสถาปนิก ทายาทนักธุรกิจเสื้อผ้าส่งออกและอสังหาริมทรัพย์ย่านโบ๊เบ๊ กลายเป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของบรรดา “คนรักทักษิณ” ในทันที...แม้ว่าข่าวชิ้นนี้ บรรดา “คนเกลียดทักษิณ” ต่างรู้ทันว่าเป็นเพียงแค่เกมข่าวในช่วงเลือกตั้งเท่านั้นเอง
00...ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดผ่านสื่อมวลชนด้วยตัวเองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายแท้ๆ ของเขา ที่ระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศนานหลายปี จะได้มีโอกาสกลับมาประเทศไทย เพื่อร่วมงานแต่งงานลูกสาวในช่วงปลายปีนี้
คำพูดของ “นารีหน้าเหลี่ยม” แน่นอนบรรดาสาวกเสื้อแดงจำนวนมากเห็นด้วย และเป็นธรรมดาที่คนเป็นพ่อก็ต้องการมาร่วมงานแต่งลูกสาว แต่ประชาชนคนไทยต้องไม่ลืมว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เขาคือนักโทษหนีคุก กรณีถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก จำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 100 โดยคดีมีอายุความนาน 10 ปี นอกจากนั้น เขายังมีอีกหลายคดีที่ถูกฟ้องคาศาลพร้อมหมายจับติดตัวไว้แล้ว เช่น คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้รัฐบาลพม่า จำนวน 4,000 ล้านบาท และ คดีการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต มูลค่าความเสียหาย 30,667 ล้านบาท
ถามว่าหากคนหนีคุกอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เขาจะมาร่วมงานแต่งงานลูกสาว โดยไม่ต้องเดินทางเข้าคุกก่อนได้หรือไม่?
แน่นอนคำตอบถือว่าอยู่ในใจของ “ยิ่งลักษณ์ และพลพรรคเพื่อไทย” อยู่แล้ว ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร หากเขาชนะเลือกตั้งและเป็นรัฐบาล...ปลดล็อกคดี นิรโทษกรรม ให้ ทักษิณ ใช่หรือไม่?
00...ประเด็น “ทักษิณ” เตรียมกลับไทย มาร่วมงานแต่งลูกสาว ในมุมมองของ “นายชาติชาย สุทธิกลม” อธิบดีกรมคุก บอกว่า ไม่กังวลใจ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับมางานแต่งลูกสาวตามที่ปรากฏเป็นข่าว เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานที่พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโต หรือคนธรรมดา ก็ไม่มีสิทธิพิเศษ หรือข้อยกเว้น
ดังนั้น ให้ทุกคนรอฟังศาลจะสั่งว่าอย่างไร กรมราชทัณฑ์ก็จะปฏิบัติอย่างนั้น พร้อมยกกรณี ทนาย นปช. ที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ได้รับอิสรภาพออกจากเรือนจำชั่วคราว เพื่อมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นี้ก็ต้องรอคำสั่งศาลเช่นกันว่าจะอนุญาตหรือไม่ โดยกรมราชทัณฑ์จะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด...
อธิบดีกรมคุกยังได้คอนเฟิร์มว่า ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ไม่เคยมีผู้ต้องขังในเรือนจำ ลาออกไปข้างนอกเพื่อไปร่วมงานบวช งานแต่ง หรือแม้แต่งานศพ เพราะไม่ใช่กิจของนักโทษ ส่วนรายละเอียดกฎระเบียบของเรือนจำ ระบุไว้อย่างไร ต้องไปศึกษาอีกที
อย่างไรก็ตาม ทราบว่าสำหรับนักโทษที่ออกไปข้างนอกเรือนจำ มีแต่เบิกตัวไปศาลเรื่องคดีความ หรือ ไม่ก็เจ็บป่วยถึงขั้นโคม่าต้องนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเท่านั้น รวมทั้งนักโทษชั้นดี ที่ใกล้จะออกจากคุก ก็มีโอกาสไปบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ขุดลอก คูคลอง ท่อระบายน้ำให้ประชาชนเท่านั้นครับ
ดังนั้น หาก “นช.ทักษิณ” จะกลับไทย เพื่อมาร่วมงานแต่งลูกสาว เชื่อว่าคนไทย พร้อมที่จะเรียนเชิญ แต่ต้องเรียนเชิญเข้าไปใช้ชีวิตในคุกก่อนนะครับ!!!
ขณะที่บรรดาผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรค “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ต่างยืนยันกับประชาชนเป็นเสียงเดียวกันว่านายใหญ่ของเขาไม่ได้กระทำความผิด แต่ถูกกลั่้นแกล้ง พร้อมอ้อนวอนขอความเห็นใจจากคนรักทักษิณ ให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อพาทักษิณ กลับบ้าน
ทำให้ข่าว “เอม พินทองทา” ลูกสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศจะแต่งงานในเดือนธันวาคมนี้ กับเจ้าบ่าวอาชีพสถาปนิก ทายาทนักธุรกิจเสื้อผ้าส่งออกและอสังหาริมทรัพย์ย่านโบ๊เบ๊ กลายเป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของบรรดา “คนรักทักษิณ” ในทันที...แม้ว่าข่าวชิ้นนี้ บรรดา “คนเกลียดทักษิณ” ต่างรู้ทันว่าเป็นเพียงแค่เกมข่าวในช่วงเลือกตั้งเท่านั้นเอง
00...ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดผ่านสื่อมวลชนด้วยตัวเองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายแท้ๆ ของเขา ที่ระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศนานหลายปี จะได้มีโอกาสกลับมาประเทศไทย เพื่อร่วมงานแต่งงานลูกสาวในช่วงปลายปีนี้
คำพูดของ “นารีหน้าเหลี่ยม” แน่นอนบรรดาสาวกเสื้อแดงจำนวนมากเห็นด้วย และเป็นธรรมดาที่คนเป็นพ่อก็ต้องการมาร่วมงานแต่งลูกสาว แต่ประชาชนคนไทยต้องไม่ลืมว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เขาคือนักโทษหนีคุก กรณีถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก จำนวน 33 ไร่ มูลค่า 772 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 100 โดยคดีมีอายุความนาน 10 ปี นอกจากนั้น เขายังมีอีกหลายคดีที่ถูกฟ้องคาศาลพร้อมหมายจับติดตัวไว้แล้ว เช่น คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้รัฐบาลพม่า จำนวน 4,000 ล้านบาท และ คดีการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต มูลค่าความเสียหาย 30,667 ล้านบาท
ถามว่าหากคนหนีคุกอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เขาจะมาร่วมงานแต่งงานลูกสาว โดยไม่ต้องเดินทางเข้าคุกก่อนได้หรือไม่?
แน่นอนคำตอบถือว่าอยู่ในใจของ “ยิ่งลักษณ์ และพลพรรคเพื่อไทย” อยู่แล้ว ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร หากเขาชนะเลือกตั้งและเป็นรัฐบาล...ปลดล็อกคดี นิรโทษกรรม ให้ ทักษิณ ใช่หรือไม่?
00...ประเด็น “ทักษิณ” เตรียมกลับไทย มาร่วมงานแต่งลูกสาว ในมุมมองของ “นายชาติชาย สุทธิกลม” อธิบดีกรมคุก บอกว่า ไม่กังวลใจ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับมางานแต่งลูกสาวตามที่ปรากฏเป็นข่าว เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานที่พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาลทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโต หรือคนธรรมดา ก็ไม่มีสิทธิพิเศษ หรือข้อยกเว้น
ดังนั้น ให้ทุกคนรอฟังศาลจะสั่งว่าอย่างไร กรมราชทัณฑ์ก็จะปฏิบัติอย่างนั้น พร้อมยกกรณี ทนาย นปช. ที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ได้รับอิสรภาพออกจากเรือนจำชั่วคราว เพื่อมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นี้ก็ต้องรอคำสั่งศาลเช่นกันว่าจะอนุญาตหรือไม่ โดยกรมราชทัณฑ์จะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด...
อธิบดีกรมคุกยังได้คอนเฟิร์มว่า ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ไม่เคยมีผู้ต้องขังในเรือนจำ ลาออกไปข้างนอกเพื่อไปร่วมงานบวช งานแต่ง หรือแม้แต่งานศพ เพราะไม่ใช่กิจของนักโทษ ส่วนรายละเอียดกฎระเบียบของเรือนจำ ระบุไว้อย่างไร ต้องไปศึกษาอีกที
อย่างไรก็ตาม ทราบว่าสำหรับนักโทษที่ออกไปข้างนอกเรือนจำ มีแต่เบิกตัวไปศาลเรื่องคดีความ หรือ ไม่ก็เจ็บป่วยถึงขั้นโคม่าต้องนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเท่านั้น รวมทั้งนักโทษชั้นดี ที่ใกล้จะออกจากคุก ก็มีโอกาสไปบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ขุดลอก คูคลอง ท่อระบายน้ำให้ประชาชนเท่านั้นครับ
ดังนั้น หาก “นช.ทักษิณ” จะกลับไทย เพื่อมาร่วมงานแต่งลูกสาว เชื่อว่าคนไทย พร้อมที่จะเรียนเชิญ แต่ต้องเรียนเชิญเข้าไปใช้ชีวิตในคุกก่อนนะครับ!!!
