เจ้าของอู่ซ่อมรถย่านเพชรเกษมถูกเพื่อนโกง ขาดเงินทำกิจการ ตัดสินใจบุกเดี่ยวงัดตู้เอทีเอ็มใกล้บ้านกลางดึก จนสัญญาณดังลั่นตกใจวิ่งไปหลบในรถ หนีไม่รอดตำรวจตามตะครุบตัวได้ทันควัน
วันนี้(26 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 02.30น. พ.ต.ท.จีระพงษ์ คล่องยุทธ สวป.สน.หนองแขม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีสัญญาณเตือนภัยของธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จึงให้ ร.ต.อ.ปรีชา ศุภมิตรพิบูลย์ รอง สวป.นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุได้ยินสัญญาณเตือนภัยจากตู้เอทีเอ็มยังดังอยู่ เมื่อตรวจสอบบริเวณประตูด้านหลังตู้เอทีเอ็มพบร่องรอยคนร้ายงัดแงะ คาดว่าคนร้ายยังหนีไปได้ไม่ไกลเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกค้นหาตัว จากนั้นพบรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 850 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนปลอม ชฉ-915 กทม. ต้อสงสัยจอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 77/2 ภายในรถพบนายพิสิษฐ์ อายุ 49 ปี นั่งอยู่ เจ้าที่จึงขอทำการตรวจค้นในรถพบ ถังแก็ส ถังลม หัวตัดแก็ส สายยางยาวประมาณ 20 เมตร ไขควง และมีดคัตเตอร์ อยู่บริเวณด้านหลังเบาะคนขับ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม
จากการสอบปากคำนายพิสิษฐ์ ให้การว่า เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ชื่ออู่สามพี่น้อง ซึ่งอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 77/2 ที่ตัดสินใจที่จะมางัดเอาเงินที่ตู้ เอทีเอ็มใกล้บ้าน หลังจากถูกเพื่อนนำรถที่อู่ไปแล้วโกงเงินส่วนแบ่ง ทำให้ขาดเงินใช้จ่ายภายในอู่ จึงลองลงมืองัดตู้เอทีเอ็มลงมือก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ก็ปรากฏว่าสัญญาณเตือนภัยกลับดังขึ้น จึงตกใจวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในรถ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายพิสิษฐ์เพื่อสอบปากคำอยู่ที่ สน.หนองแขมนั้น ภรรยาของนายพิสิษฐ์ ได้ขับรถยนตืฮอนด้า ซีอาร์วี มาเพื่อประกันตัวนายพิสิษฐ์ และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหะนะ และทำลายสิ่งกีดขวางคุ้มครองทรัพย์ จากนั้นจะสอบสวนขยายผลว่าได้ทำการงัดตู้เอทีเอ็มคนเดียว และก่อเหตุมาครั้งแรกจริงหรือไม่ต่อไป
วันนี้(26 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 02.30น. พ.ต.ท.จีระพงษ์ คล่องยุทธ สวป.สน.หนองแขม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีสัญญาณเตือนภัยของธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรเกษม 77/2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จึงให้ ร.ต.อ.ปรีชา ศุภมิตรพิบูลย์ รอง สวป.นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุได้ยินสัญญาณเตือนภัยจากตู้เอทีเอ็มยังดังอยู่ เมื่อตรวจสอบบริเวณประตูด้านหลังตู้เอทีเอ็มพบร่องรอยคนร้ายงัดแงะ คาดว่าคนร้ายยังหนีไปได้ไม่ไกลเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกค้นหาตัว จากนั้นพบรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 850 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนปลอม ชฉ-915 กทม. ต้อสงสัยจอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 77/2 ภายในรถพบนายพิสิษฐ์ อายุ 49 ปี นั่งอยู่ เจ้าที่จึงขอทำการตรวจค้นในรถพบ ถังแก็ส ถังลม หัวตัดแก็ส สายยางยาวประมาณ 20 เมตร ไขควง และมีดคัตเตอร์ อยู่บริเวณด้านหลังเบาะคนขับ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม
จากการสอบปากคำนายพิสิษฐ์ ให้การว่า เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ชื่ออู่สามพี่น้อง ซึ่งอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 77/2 ที่ตัดสินใจที่จะมางัดเอาเงินที่ตู้ เอทีเอ็มใกล้บ้าน หลังจากถูกเพื่อนนำรถที่อู่ไปแล้วโกงเงินส่วนแบ่ง ทำให้ขาดเงินใช้จ่ายภายในอู่ จึงลองลงมืองัดตู้เอทีเอ็มลงมือก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ก็ปรากฏว่าสัญญาณเตือนภัยกลับดังขึ้น จึงตกใจวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในรถ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายพิสิษฐ์เพื่อสอบปากคำอยู่ที่ สน.หนองแขมนั้น ภรรยาของนายพิสิษฐ์ ได้ขับรถยนตืฮอนด้า ซีอาร์วี มาเพื่อประกันตัวนายพิสิษฐ์ และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหะนะ และทำลายสิ่งกีดขวางคุ้มครองทรัพย์ จากนั้นจะสอบสวนขยายผลว่าได้ทำการงัดตู้เอทีเอ็มคนเดียว และก่อเหตุมาครั้งแรกจริงหรือไม่ต่อไป