กองปราบปราม ตามจับกุมคนร้าย ทำทีเข้าไปบวช และตีสนิทกับพระเถระผู้ใหญ่ ระดับเจ้าคณะชั้นปกครอง จากนั้นอาศัยความสนิทสนมเข้าออกกุฏิ ขโมยพระเครื่อง พระบูชาระดับที่บรรดาเซียนเห็นแล้วน้ำลายไหลไปขายกว่าร้อยรายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ตำรวจตามรวบได้ ขณะเข้าไปบวชในโครงการของวัดพระธรรมกาย แล้วไปจำวัดอยู่ใน จ.พิจิตร พบประวัติบวชๆ สึกๆ ก่อคดีโชกโชน
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ศานุวงศ์ คงคาอินทร์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายนรินทร์ บุญยะ หรือ พระกฤช อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี ข้อหายักยอกทรัพย์ พร้อมของกลางพระบูชา พระเครื่อง เช่น พระบูชาเชียงแสน หลวงปู่ทวด หลวงพ่อกลั่น กว่า 100 รายการ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ วัดท้ายน้ำ อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร
พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ระดับรองเจ้าคณะจังหวัดหลายรูป เข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ต่างๆ ว่า ถูก นายนรินทร์ หรือ พระกฤช ขโมยพระพุทธรูป พระเครื่อง รวมทั้งเหรียญของเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก ก่อนหลบหนีไป โดยมีพฤติการณ์ทำทีเข้ามาตีสนิท เมื่อสบโอกาสจึงเข้าไปภายในกุฏิแล้วลงมือก่อเหตุดังกล่าว และหลังจากนั้น ก็จะนำพระเครื่องที่ได้ไปขายที่ร้านรับซื้อตามห้างต่างๆ นอกจากนี้ ยังพบว่า นายนรินทร์ หรือ พระกฤช เคยบวชและถูกจับลาสิขามาแล้วหลายครั้ง และเคยยักยอกรถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินของผู้เสียหายรายหนึ่งใน จ.อุทัยธานี กระทั่งถูกศาลจังหวัดอุทัยธานี ออกหมายจับคดีดังกล่าว เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2548 - เมษายน 2554 ต่อเนื่องกัน
รองผบก.ป.กล่าวว่า ต่อมา ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.สืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปบวชเป็นพระตามโครงการบวชพระ 1 แสนรูป ของวัดพระธรรมกาย และจำวัดอยู่ที่วัดท้ายน้ำ อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร จึงวางแผนนำกำลังเข้าติดตามจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด ซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง ก่อนคุมตัวไปให้พระเถระทำการที่วัดบ้านน้อย และคุมตัวมาสอบสวนต่อ
จากการสอบสวน นายนรินทร์ รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยลงมือมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งจะอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของพระผู้ใหญ่ที่ไปบวชอยู่ด้วย จากนั้นก็จะนำพระเครื่องไปขาย นำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่ โดยแต่งตัวเป็นฆราวาส และบางส่วนก็เอาไปเล่นการพนันทายผลฟุตบอลต่างประเทศ และล่าสุด เพิ่งก่อเหตุในพื้นที่ จ.ชัยนาท เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในที่สุด ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป