ตร.บางชันแถลงจับแก๊งเขมรนักล้วง - พลทหารหื่นกาม

ตำรวจบางชันแถลงผลจับกุมคดีอาชญากรรม รวบแก๊งชาวเขมร-เวียดนาม ก่อเหตุล้วงกระเป๋าตามห้างสรรพสินค้า อีกรายรวบพลทหารหื่นกามลวงชำเราสาว 15

วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน แถลงผลการจับกุมแก๊งล้วงกระเป๋าชาวต่างชาติ ประกอบด้วย นางเหว่น ถี เต็น อายุ 61 ปี นายเหวง หว่าง ลำ อายุ 28 ปี ทั้งสองสัญชาติเวียดนาม นายชมพู บุญสมบัติ อายุ 49 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟนจำนวน 1 เครื่อง

พ.ต.อ.ศราวุธ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.เจิดเกษม ศิริโชติ สว.สส.สน.บางชันได้รับแจ้งจาก น.ส.วรารัตน์ ดำจันทร์ อายุ 27 ปี ว่า เพิ่งเข้าไปซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนที่ร้านขายโทรศัพท์ในห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา จากนั้นได้เอามือถือใส่ไว้ในกระเป๋าถือ และจังหวะที่เดินสวนกับหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องรู้สึกว่าถูกล้วงกระเป๋าจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบตรวจสอบจนพบของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟนอยู่ที่นายชมพู บุญสมบัติ ชาวกัมพูชา และยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ร่วมกระทำผิด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” ต่อไป สำหรับแก๊งชาวเขมร เวียดนามจะมีอยู่หลายกลุ่ม โดยจะตระเวนตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก่อนลงมือจะคอยมองหาเหยื่อที่เพิ่งซื้อสินค้ามีราคาและสะกดรอยตามเพื่อหาจังหวะลงมือฉกทรัพย์ เมื่อได้ของมาแล้วก็จะส่งต่อกันเป็นทอดๆ ทำให้ยากต่อการจับกุม

อีกรายแถลงผลการจับกุมตัว พลทหารอภิชาต นวลแจ่ม อายุ 23 ปี และนายกฤษฎิ์กรัณย์ พรมจันทร์ อายุ 19 ปี พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน ฬงจ-75 กทม. พร้อมแจ้งข้อหาข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองได้ขี่จักรยานยนต์มาชักชวน น.ส.วุ้นเส้น (นามสมมติ) อายุ 15 ปีจากบ้านพักย่านซอยเสรีไทย 20 ไปที่ห้องพักเลขที่ 17 พีชญรีสอร์ท ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงและเขตสะพานสูง กทม. จากนั้นพลทหารอภิชาตได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 2 ครั้ง โดยมีนายกฤษฎิ์ณย์รออยู่นอกห้องคอยดูต้นทาง จากนั้นผู้เสียหายจึงได้ใช้อุบายว่าต้องรีบกลับบ้านเพราะญาติไม่สบายผู้ต้องหาทั้งสองจึงยอมปล่อยให้กลับบ้าน ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจนติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ห้องพักดังกล่าว