ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามรวบหนุ่มใหญ่ชาวเยอรมัน หนีหมายจับคดีฉ้อโกงมูลค่าหลายสิบล้านบาท เข้ามาหลบซ่อนในเมืองไทย และอยู่กินกับภรรยาชาวไทย ทำไร่ปลูกไม้กฤษณาเนื้อที่กว่า 10 ไร่ใน จ.ศรีสะเกษ นอกจากนี้ ยังสามารถจับหนุ่มใหญ่ชาวเยอรมันได้อีก หนีคดีเลี่ยงภาษี 5 ล้านยูโร มาหลบซ่อนตัวใน จ.ชลบุรี ได้อีก 1 ราย
วันนี้ (2 มิ.ย.) พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม.พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผกก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.ทิฆัมพร ศรีสังข์ พ.ต.ท.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ รองผกก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.ท.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ สว.กก.2 บก.สส.สตม.นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม.เข้าจับกุม นายเอลมาร์ อันโทน เชอร์รอช อายุ 50 ปี สัญชาติเยอรมัน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเมืองเวอร์ซบวร์ก ประเทศเยอรมนี และหมายจับสหภาพยุโรป ในความผิดฐานฉ้อโกงหลายคดี มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท
พล.ต.ต.มนู กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.2 บก.สส.สตม.ได้สืบสวนจนทราบว่า นายเอลมาร์ ได้มาหลบซ่อนตัวและอยู่กินกับภรรยาชาวไทย ที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่พบตัว ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เจ้าตัวกับภรรยาได้ไปปลูกกระท่อม เพื่อทำไร่ปลูกไม้กฤษณาอยู่บริเวณชายป่าหลังหมู่บ้านบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้
พล.ต.ต.มนู กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.ยังสามารถจับกุมตัว นายราล์ฟ ดอทเทอร์ไวซ์ อายุ 51 ปี สัญชาติเยอรมัน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเมืองเวอร์ซบวร์ก ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี สร้างความเสียหายมากกว่า 5 ล้านยูโร เหตุเกิดที่เมืองซอนเนแบร์ก ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2543-2549 ได้อีก 1 ราย หลังจากสืบทราบว่า เจ้าตัวได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ถนนพัทยาใต้ ต.พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงควบคุมตัวดำเนินตามกฎหมายต่อไป