รองผบช.น.เผยป้ายหาเสียงพรรคใหญ่แกนนำรัฐบาลปัจจุบันถูกทำลายมากสุด สั่งเจ้าหน้าที่ซุ่มโป่งจับพวกมือบอนมาดำเนินคดีเด็ดขาด พร้อมสั่งให้ทุก สน.เชิญผู้สมัคร ส.ส.พูดคุยทำความเข้าใจ วอนให้หาเสียงในกรอบกติกา หากเปรียบเหมือนมวยก็ต้องชกในกติกา อย่าชกใต้เข็มขัด ยังเชื่อมั่นประชาชนอยากเห็นพรรคการเมืองที่เป็นต้นแบบของประชาธิปที่แท้จริง
วันนี้ (2 มิ.ย.) พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบการดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงหาเสียงเลือกตั้งพื้นที่ กทม. กล่าวว่า มีรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ระหว่างวันที่ 26 พ.ค. - 1 มิ.ย. พบป้ายหาเสียงของผู้สมัครพรรคการเมืองต่างๆถูกทำลายทั้งหมด 73 ป้ายในพื้นที่ บก.น.4, 5, 6 และ บก.น.9 มีการทำลายมากที่สุด โดยอยู่ในเขตรับผิดชอบของ สน.บางบอน
พล.ต.ต.กรีรินทร์กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่เหลืออยู่ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน สน.ลุมพินี สน.บางนา สน.คลองตัน สน.ยานนาวา สน.บางรัก สน.บึงกุ่ม และ สน.บางชัน ซึ่งเป็นป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ 34 ป้าย พรรคภูมิใจไทย 17 ป้าย พรรครักประเทศไทย 9 ป้าย พรรคเพื่อไทย 9 ป้าย พรรครักสันติ 2 ป้าย และพรรคชาติไทยพัฒนา 2 ป้าย
“หลังจากได้รับรายงานได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกหน่วยดำเนินการใน 3 มาตรการ คือ 1. จัดกำลังสายตรวจลงพื้นที่หาข่าวแสวงหาความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในการเข้มงวดตรวจตรา 2.ให้ทุกหน่วยจัดกำลังเจ้าหน้าที่สายสืบนอกเครื่องแบบซุ่มโป่งจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และ 3.สั่งการให้ทุก สน.เชิญผู้แทนพรรคการเมืองหรือผู้สมัครพรรคการเมืองต่างๆมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน โดยให้หาเสียงอยู่ในกรอบกติกา ให้การหาเสียงเลือกตั้งเป็นเหมือนเกมส์กีฬาเปรียบเหมือนมวยก็ต้องชกในกติกา อย่าชกใต้เข็มขัด” พล.ต.ต.กรีรินทร์กล่าว
พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำว่า นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยแล้วยังต้องมีหน้าที่ทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตย เหมือนกับอารยประเทศอื่นที่เจริญแล้ว ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าขณะนี้ประชาชนอยากเห็นการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีความสง่างามและอยากเห็นพรรคการเมืองที่เป็นต้นแบบของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
รองผบช.น.กล่าวถึงการคาดโทษผู้กระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งและทำลายป้ายหาเสียงว่า จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเฉพาะความผิดเรื่องของการทำลายป้ายหาเสียงนั้นเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เสียทรัพย์มีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งผู้กระทำผิดจะถูกจับกุมดำเนินคดีมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท แต่หากมีผู้จ้างวานด้วย ผู้จ้างวานจะต้องได้รับโทษจำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และถ้าผู้เกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอาจถูกตัดสิทธิ์ พร้อมยุบพรรคการเมืองได้
นอกจากนี้ พล.ต.ต.กรีรินทร์ยังได้ฝากไปถึงการปราศรัยหาเสียงและการพบปะพี่น้องประชาชนของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่มีการพูดจาพาดพิงหมิ่นประมาทให้ร้ายป้ายสีผู้อื่นหรือทำให้องค์กรได้รับผลกระทบเสียหายว่า ถือเป็นความผิดเช่นกัน หากมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีในส่วนนี้ไม่ว่าจะเป็นความผิดต่อบุคคลหรือองค์กรก็ตาม พนักงานสอบสวนก็พร้อมทำคดีให้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลขณะนี้ยังไม่พบรายงานการแจ้งความหมิ่นประมาทแต่อย่างใด