กองปราบฯ เผย ผู้สมัคร ส.ส.“แม่ฮ่องสอน-ราชบุรี-ภูเก็ต” ขอเจ้าหน้าที่ รปภ.เพิ่ม พร้อมสั่งทีมสืบทุกชุดลงพื้นที่จับตาซุ้มมือปืน และเตรียมปฏิบัตการเชิงรุกบุคคลเป้าหมาย เน้นนครสวรรค์ หลังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนมีสี
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืนและผู้มีอิทธิพลในการก่อเหตุรุนแรงช่วงการเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ทางผู้สมัคร ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.ราชบุรี และ จ.ภูเก็ต ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม จากที่ก่อนหน้านี้มีการประสานมาแล้ว 10 จังหวัด ซึ่งพบว่ามีแนวโน้มของการเกิดเหตุรุนแรงขึ้น
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ได้นำกำลังลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อรับทราบปัญหาในพื้นที่ หลังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความขัดแย้งทางการเมืองสูงและมีเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง ซึ่งพบว่ามีความเคลื่อนไหวของผู้มีอิทธิพลหลายจุด ซึ่งขณะนี้จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามป้องกันปัญหาความรุนแรงจากปัญหาความขัดแย้งและการแข่งขันทางการเมืองแล้ว ส่วนความเคลื่อนของซุ้มมือปืนต่างๆ นั้นได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนแต่ละกองกำกับการลงพื้นที่ติดตาม โดยเฉพาะใน จ.นครสวรรค์ พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนมีสี ซึ่งทาง บก.ป.ได้เตรียมใช้ปฏิบัติการในเชิงรุกเพื่อดำเนินการกับบุคคลเป้าหมายไว้แล้ว
เตรียมขอหมายจับเพิ่มทีมฆ่า “ผกก.ไทรงาม”
พล.ต.ต.สุพิศาล ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆ่า พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม ผกก.สภ.ไทรงาม และคดีคนร้ายลอบยิง นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ว่า สำหรับคดีฆ่า พ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายสำคัญเพิ่มเติม
เริ่มสอบใหม่คดียิง “ประชา”
ส่วนคดียิง นายประชา นั้น ทางชุดสืบสวนคงต้องเริ่มสืบสวนสอบสวนคดีใหม่ ภายหลังจับกุม นายกนกโกมล อ่อนลำเนาว์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันใช้ จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ นายเกียรติศักดิ์ ปะทานัง อายุ 29 ปี ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่พบว่าทั้งสองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียิงนายประชา