xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” ขึ้นศาลฟ้องหมิ่น “ไอ้ตู่” กล่าวหาจัดฉากใส่ร้ายคนเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
“เทพเทือก” เลี่ยงม็อบแดงเข้าข้างตึกศาลอาญาเบิกความเป็นพยานปากแรกคดีฟ้องหมิ่น “จตุพร” กล่าวหาจัดฉากใส่ร้ายเสื้อแดง ปูดข่าวพาต่างด้าวร่วมชุมนุม ศาลนัดอีกรอบ 28 มิ.ย.นี้

วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ปากแรกในคดีหมายเลขดำ อ.855/2553 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีจำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว และที่ทำการพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าโจทก์เตรียมดำเนินการสร้างฉาก เพื่อป้ายสีกลุ่ม นปช. และเพื่อทำลายคนเสื้อแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.52

นัดนี้ นายสุเทพเดินทางไปเบิกความด้วยตัวเอง แต่เลี่ยงที่จะเดินขึ้นด้านหน้าอาคารศาลอาญา โดยเดินเข้าทางด้านข้างอาคารแทน เนื่องจากมีกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนเดินทางมาศาลเพื่อรอให้กำลังใจนายจตุพรที่ถูกเบิกตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อร่วมการพิจารณาคดี เช่นกัน

โดยวันนี้ ทนายความโจทก์นำนายสุเทพขึ้นเบิกความเป็นพยานปากแรก สรุปว่า ข้อกล่าวหาของนายจตุพรนั้นเป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม เมื่อตนไม่เคยกล่าวหานายจตุพรในทำนองนี้ อีกทั้งเคยเตือนห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติ เข้าไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. เพราะการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญนั้นให้สิทธิเฉพาะประชาชนคนไทยเท่านั้น สิ่งที่นายจตุพรพูดถือเป็นการติชมที่ไม่สุจริต เพราะไม่เป็นความจริง ตลอดการชุมนุมตนจะได้รับรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลโดยตลอด จึงทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. และได้กล่าวเตือนบรรดานายจ้างที่มีแรงงานต่างด้าวไม่ให้ลูกจ้างต่างด้าวไปร่วมชุมนุม ซึ่งนายจตุพรก็ไม่เคยนำประเด็นนี้ไปอภิปรายในสภาฯ แต่กลับมาแถลงข่าวกล่าวหาตน

นายสุเทพยังตอบคำถามค้านทนายความจำเลยว่า แม้จะมีการเลิกชุมนุมหลังช่วงสงกรานต์ 2552 แล้ว แต่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และมีการพูดจาบิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่ตลอดเวลา เช่น กล่าวหาว่ารัฐบาลฆ่าประชาชน นายอภิสิทธิ์บงการฆ่าประชาชน และตนจำได้ว่าคนที่เป็นต้นเหตุก็คือจำเลย ที่พยายามปลุกระดมให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมอยู่ตลอดเวลา จนมีการประกาศชุมนุมใหญ่ในวันที่ 10 ธ.ค.52 รัฐบาลได้รับรายงานว่า อาจมีการนำแรงงานต่างด้าวบางส่วนเข้ามาร่วมชุมนุม จึงให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เพื่อเป็นการป้องปรามว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีสิทธิเข้าร่วมชุมนุม เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ประกอบการจะต้องเป็นผู้ดูแล ซึ่งการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวไม่ใช่เพราะรัฐบาลเป็นผู้เริ่มให้ข่าว เมื่อมีกระแสข่าวว่าอาจมีการนำแรงงานต่างด้าวไปร่วมชุมนุม จึงมีการสัมภาษณ์ในเชิงตักเตือน ส่วนที่บอกว่าโฆษกรัฐบาลให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำแรงงานต่างด้าวไปร่วมชุมนุม พร้อมทั้งมีอาวุธด้วย ตนไม่ทราบว่าโฆษกรัฐบาลกล่าวเช่นนั้นหรือไม่ ก่อนมีการชุมนุมรัฐบาลจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาฯ โดยพยายามรักษาสถานการณ์เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศของงาน และไม่ได้เตรียมการใดๆ ที่เกิดการตึงเครียด รวมถึงไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง การแก้ไขสถานการณ์ก็ดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร

ภายหลังนายสุเทพเบิกความแล้วเสร็จ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น