รอง ผบช.น.กำชับจราจรกลางลงพื้นที่ช่วยตำรวจแต่ละ สน.กวดขันรถฝ่าฝืนจอดที่ห้าม จอดซ้อนคัน เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัด ย้ำ 4 จุดร้องเรียนทำรถติดหนึบย่านตลาดบ่อนไก่ คลองเตยติดโผด้วย เผยปริมาณรถที่เพิ่งจดทะเบียนใหม่ใน กทม.นำต่อเรียงกันจะยาวถึง 6 กิโลเมตร ถ้ามีการจัดงานใหญ่ในพื้นที่ใด หรือฝนตก ยิ่งทำให้รถติดหนักมากขึ้น
วันนี้ (31 พ.ค.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหากรณีผู้ขับขี่รถจอดซ้อนคันและจอดในที่ห้ามจอดเป็นเหตุทำให้การจราจรติดขัดว่า จากการหารือร่วมกับ พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องพบว่าการจอดรถซ้อนคันและจอดรถในที่ห้ามจอดนั้นมีผลกระทบต่อการจราจรอย่างยิ่ง ซึ่งในที่ประชุมได้หาทางออกร่วมกันในการแก้ปัญหา และได้ข้อสรุปว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรท้องที่เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องนี้มากขึ้น
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า มีคำสั่งให้กองบังคับการตำรวจจราจรส่งกำลังตำรวจจราจรกลางลงพื้นที่ช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.กวดขัน เรื่องการจอดรถในที่ห้ามในทุกจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 จุดสำคัญที่มักถูกประชาชนร้องเรียนเรื่องมีการจอดรถที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อในภาพรวมคือ 1.ตลาดบ่อนไก่คลองเตย ถนนพระรามที่ 4 ที่มักมีรถสามล้อรับจ้างจอดแช่กีดขวางการจราจร 2.ถนนพหลโยธิน บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่มีรถตู้ รถแท็กซี่จอดกีดขวางป้ายรถเมล์ 3.หน้าห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าและโรงภาพยนตร์เมเจอร์ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี และ 4.หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา ที่มีรถสองแถวจอดกีดขวางเป็นจำนวนมาก หากเจ้าหน้าที่เคร่งครัดในเรื่องนี้แล้วเชื่อว่าปัญหาการจราจรติดขัดในจุดดังกล่าวจะเบาบางลงได้
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ภาณุยังกล่าวถึงอัตราการเพิ่มของรถยนต์ที่มีการจดทะเบียนใหม่ในพื้นที่ กทม.ว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดจากสถิติรถที่จดทะเบียนวิ่งตามท้องถนนทั่วประเทศเฉพาะรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมแล้วกว่า 29 ล้านคัน เป็นยอดรวมเฉพาะในกรุงเทพฯ ถึง 6.62 ล้านคัน เป็นรถยนต์ 4 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 2.6 ล้านคัน โดยพบว่าทั่วประเทศมีรถจดทะเบียนใหม่เฉพาะรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มวันละ 9,352 คัน ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเพิ่มมากถึงเฉลี่ยวันละ 2,592 คัน เป็นรถยนต์เฉลี่ยวันละ 1,468 คัน รถจักรยานยนต์เฉลี่ยวันละ 1,124 คัน
“เมื่อคำนวณปริมาณรถทั้งหมดที่รถจดทะเบียนในกรุงเทพฯ นำมาต่อเรียงกันจะมีความยาวถึง 6 กิโลเมตร ทำให้ปัญหาการจราจรติดขัด และหากมีการจัดงานใหญ่ในจุดใดจุดหนึ่ง หรือเกิดฝนตกหนักจนมีปัญหาน้ำท่วมขังก็จะทำให้การจราจรยิ่งวิกฤตหนัก ขณะที่ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอก็มีเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย ส่งผลให้มีการจอดในที่ห้าม จอดกีดขวางการจราจร และทำให้รถยิ่งติดขัดหนักมากขึ้นไปอีก” รอง ผบช.น.กล่าว