xs
xsm
sm
md
lg

ผู้สมัคร ส.ส.ผวา “ไข้โป้ง” แห่ขอ ตร.คุ้มกัน - เผยปมยิงหัวคะแนน ปชป.คาดรับทำไสยศาสตร์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.
โฆษก บช.น.เผยปมยิงหัวคะแนน ปชป. คาดผู้ถูกยิงรับทำไสยศาสตร์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นการเมือง บอกเงินอัดฉีดให้ตำรวจตื่นจับโจรมาจากผู้บังคับบัญชาและเอกชน เชื่อถ้าเงินมางานก็เดินมากขึ้น ชี้ที่ต้องให้เงินรางวัลเพราะต้องการสร้างขวัญกำลังใจ ยิ่งถ้าจับผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ผบ.ตร.จะควักเงินให้เพิ่มคดีละ 2 หมื่น ขณะที่ผู้สมัครร้องขอกำลังคุ้มกัน หวั่นไม่ปลอดภัย

วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงผลการระดมกวาดล้างล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ในพื้นที่ กทม.มี ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด 199 คน ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่มีการกระทำผิดเกี่ยวการเลือกตั้ง โดยมีเพียงคดียิงหัวคะแนนพรรคการเมืองหนึ่ง ส่วนคดีที่มีคนร้ายก่อเหตุลอบยิงหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่ามีหลายสาเหตุอาจมาจากเรื่องการประกอบอาชีพ เนื่องจากผู้ถูกยิงรับทำพิธีไสยศาสตร์ โดยจากการตรวจพื้นที่เกิดเหตุคาดว่ามีการก่อเหตุทางน้ำด้วย เนื่องจากบ้านหลังเกิดเหตุอยู่ใกล้กับคลอง โดยทางผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลต่อตำรวจแล้ว คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องการทำพิธีไสยศาสตร์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นการเมือง ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า สำหรับผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 12-26 พ.ค. ประกอบด้วย 1.คดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ เกิดขึ้น 9 ราย จับได้ 5 ราย ผู้ต้องหา 11 คน ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง 2.คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ เกิด 81 ราย จับ 30 ราย ผู้ต้องหา 38 คน เกี่ยวข้องกับการเมือง เกิด 1 ราย จับ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน 3.คดีเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้างและผู้สนับสนุน ไม่พบการกระทำผิด

4.คดีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จับ 33 ราย ผู้ต้องหา 33 คน วัตถุระเบิด จับ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน 5.คดีค้างเก่า จับ 114 ราย ผู้ต้องหา 125 คน 6.คดียาเสพติด จับ 2,398 ราย ผู้ต้องหา 2,530 คน คดีเกี่ยวกับอบายมุข จับ 275 ราย ผู้ต้องหา 407 คน รวมผลการระดมกวาดล้างจับ 2,956 ราย ผู้ต้องหา 3,144 คน

อัดฉีดเงินรางวัลสร้างขวัญกำลังใจลูกน้อง

ส่วนความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การเลือกตั้งฯ ยังไม่พบการกระทำผิด โดยหลังจากนี้จะยังมีการระดมกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรมไปจนถึงวันที่ 13 มิ.ย.

“นอกจากนี้ ตำรวจยังมีโครงการให้เงินรางวัลกับตำรวจที่สามารถจับกุมคดีสำคัญๆ ได้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ตำรวจ เนื่องจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ5 มีการดำเนินการมาก่อนแล้ว จึงมอบนโยบายให้ทุก บก. จัดทำเช่นเดียวกัน เช่น จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ให้เงินรางวัล 20,000 บาท วัตถุระเบิด 20,000 บาท เป็นต้น แต่หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจับกุม แต่เป็นตำรวจธุรการ จราจร จะให้เงินรางวัลเพิ่มเป็น 2 เท่า ซึ่งในการจับกุมจะต้องมีผู้ต้องหาและของกลาง นอกจากนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ยังจะสมทบเงินให้อีกคดีละ 20,000 บาทหากมีการจับกุมได้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ตำรวจ โดยเน้นย้ำให้ตำรวจปฏิบัติกันทั่วประเทศ”

ผู้สมัคร ส.ส.ขอกำลังคุ้มกัน หวั่นไม่ปลอดภัย

โฆษก บช.น.กล่าวต่อว่า วันจันทร์ที่ 30 พ.ค. ผบ.ตร.จะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผบช.และ ผบก.ทั่วประเทศ เข้าฟังสัมมนาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลขาธิการ กกต. เพื่อให้ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองใหญ่ 5 คน ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 1 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน และพรรคภูมิใจไทย 1 คน ร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัยในการลงพื้นที่หาเสียง จึงส่งตำรวจทั้งหมด 9 นายไปอำนวยความสะดวกเรื่องความปลอดภัย และวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. ทาง บช.น.จะมีการอบรมตำรวจเรื่องการรักษาความปลอดภัยผู้สมัครอีก 150 นาย หากมีการร้องขอ

ขู่จับมือบอนทำลายป้ายหาเสียง

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวด้วยว่า สำหรับการทำลายป้ายหาเสียงผู้กระทำผิดจะถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท แต่หากมีผู้จ้างวานต้องโทษจำคุก 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และถ้าผู้เกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองอาจถูกตัดสิทธิ์พร้อมยุบพรรคการเมืองได้ แต่หากตำรวจเห็นว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงสามารถจับกุมได้ทันที เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้าและจะประสานเจ้าของป้ายมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทางตำรวจมีการกำชับเพิ่มตลอด ส่วนผลระดมกวาดล้าง ก็เป็นที่น่าพอใจ โดยจากนี้จะมีการตั้งจุดตรวจ เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางน้ำมากขึ้นด้วย

เชื่อเงินมางานจับโจรเดินดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้วทำไมต้องมีการตั้งรางวัล พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เพื่อให้การปฏิบัติสอดคล้องและมุ่งเน้นสอดรับกับนโยบายให้ตำรวจเอาใจใส่ในการดูแลความเรียบร้อย ส่วนเงินรางวัลที่ใช้ให้ตำรวจนั้นมาจากผู้บังคับบัญชาและเอกชน ซึ่งเชื่อว่าถ้าเงินมางานก็เดินมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น