ลูกจ้างร้านขายนาฬิกาสุดแสบ ขโมยนาฬิกาหรู 7 เรือน มูลค่ากว่า 3 ล้านไปจำนำ เจ้าของพบพิรุธเพราะลาออกกะทันหันทั้งที่ทำงานดี ตรวจสอบจึงรู้ความจริงก่อนวางแผนจับกุมตัว สารภาพติดหนี้พนันฟุตบอลไม่มีเงินจ่ายจึงขโมยนาฬิกาดังกล่าวไปจำนำ
วันนี้ (24 พ.ค.)เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี ร.ต.อ.ฑีฆายุ เรณางกูล รอง สว.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวนจับกุมตัว นายสุวัฒนา หรือหน่อย ศรีทิ อายุ 25 ปี ชาว จ.พิจิตร ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์นายจ้าง จับกุมได้ภายในซอยชุมชนพระเจน ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จากนั้นนายประทวน อึงศรีสวัสดิ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ซ.เลื่อนอรณพ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เจ้าของร้านขายนาฬิกาชื่อดังยี่ห้อ Vulcain ผู้เสียหายได้มาชี้ตัวผู้ต้องหา และยืนยันว่าใช่คนร้ายจริง
โดยนายประทวน ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนและภรรยาเป็นเจ้าของร้านขายนาฬิกายี่ห้อ Vulcain ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นยี่ห้อชื่อดังที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชื่นชอบและใส่ติดตัวตลอดเวลา โดยร้านตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลชิดลม ส่วนนายหน่อยเป็นพนักงานขายที่จ้างมาเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งนายหน่อยก็ทำงานขยันขันแข็งมาโดยตลอด ตนก็ไว้วางใจ แต่ต่อมาผู้ต้องหาก็มาขอลาออกกะทันหัน ด้วยความแปลกใจจึงลองตรวจสินค้าอย่างละเอียด และพบว่านาฬิกาของร้านหายไปหลายรุ่นรวม 7 เรือน มูลค่ากว่า 3.8 ล้านบาทสูญหายไป ทำให้มั่นใจว่านายหน่อยต้องเป็นคนขโมยไปอย่างแน่นอนเพราะมีหน้าที่เช็กสินค้าทั้งหมด
นายประทวนกล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนจึงวางแผนโดยโทรศัพท์หานายสุวัฒนาแกล้งทำเป็นยังไม่รู้เรื่อง ก่อนจะบอกว่าจะไปรับที่อพาร์ตเมนต์เพื่อให้มาเซ็นชื่อใบลาออกให้เรียบร้อย ซึ่งพอไปรับตัวนายสุวัฒนาขึ้นรถมา ตนก็ขับรถอ้อมไปทางอื่นก่อนจะเลี้ยววกมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ ทำให้นายสุวัฒนาไหวตัวทัน กระชากเปิดประตูรถและทิ้งตัวมาที่พื้นถนนก่อนจะรีบวิ่งหนีทันที แต่ก็มาถูกจับกุมได้ในที่สุด
ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นหนี้พนันบอลต่างประเทศแต่ไม่มีเงินไปจ่าย จึงแอบหยิบนาฬิกาไปเข้าโรงรับจำนำหลายครั้งแล้ว พอแทงบอลถูกก็จะไปไถ่ของมาคืน แต่ช่วงหลังแทงเสียมาโดยตลอด จนมาถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ตนจึงเสี่ยงเล่นไปเกือบ 1 แสนบาท และก็แทงเสีย จึงขโมยนาฬิกาไป 7 เรือนนำเข้าโรงรับจำนำได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และนำไปจ่ายให้เจ้าหนี้ จากนั้นได้โทรศัพท์ขอลาออกทันที แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พาผู้ต้องหาไปตรวจค้นที่อพาร์ตเมนต์ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 2 พบตั๋วจำนำของนาฬิกาทั้ง 7 เรือน รวมราคาจำนำเป็นเงิน 1.45 แสนบาทเก็บอยู่ในลิ้นชัก จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะไถ่ถอนคืนในภายหลังต่อไป
