นักร้องนักแสดงทั้ง “แนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่- เชียร์ ฑิฆัมพร และ การ์ตูน อินทิรา” เข้าแจ้งความตำรวจ ถูกประชาสัมพันธ์สาวบริษัทผลิตภาพยนตร์เชิดเงินไปดื้อๆ หลังจากที่ทั้งหมดสั่งซื้อไอโฟน 4 และไอแพด 2 อ้างจะให้เพื่อนหิ้วเข้ามาจากต่างประเทศ แต่สุดท้ายสูญเงินฟรี
วันนี้ (19 พ.ค) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.ห้วยขวาง น.ส.ภัทรนันท์ ดีรัศมี อายุ 26 ปี หรือแนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่ น.ส.ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ หรือ เชียร์ อายุ 24 ปี และ น.ส.อินทิรา เกตุวรสุนทร หรือ การ์ตูน อายุ 24 ปี นักร้องนักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง และ พ.ต.ท.สมคิด สมบูรณ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ห้วยขวาง หลังจากที่ทำการสั่งซื้อไอโฟน 4 และ ไอแพด 2 จาก น.ส.อรทัย ส่งเสริมรัตน์ อายุประมาณ 25-30 ปี พีอาร์ของบริษัทผลิตภาพยนตร์แห่งหนึ่ง แต่กลับถูกหลอกไม่ได้รับสินค้า รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดนับแสนบาท
จากการสอบถาม น.ส.อินทิราให้การว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากก่อนหน้านี้ ตนและเชียร์อยากที่จะซื้อไอโฟน 4 จึงได้มีการพูดคุยกับเพื่อนในวงการชื่อบิว จังหวะนั้น น.ส.อรทัย ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทผลิตหนังที่แนนนี่แสดงอยู่ก็รู้จักกับบิวเช่นกัน เมื่อ น.ส.อรทัยรู้ว่าพวกตนอยากซื้อไอโฟน 4 จึงเสนอตัวที่จะจัดหาสินค้ามาให้ในราคาที่ไม่แพงมากนัก โดยบอกผ่านบิวมาว่ามีเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศกำลังจะเดินทางกลับมาประเทศไทย สามารถซื้อและนำสินค้าเข้ามาได้ในราคาถูก ตนกับเชียร์จึงเชื่อใจและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยของ น.ส.อรทัย คนละ 15,000 บาท โดยเชียร์โอนเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนตนโอนไปตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
น.ส.อินทิรากล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้มีการนัดรับของกันช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อติดต่อไปยัง น.ส.อรทัยก็ได้รับคำตอบว่า เพื่อนที่จะนำสินค้ามาให้ยังไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ ตนจึงรอกระทั่งถึงเดือนเมษายน น.ส.อรทัยก็อ้างว่าติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากนั้นก็ผัดผ่อนไปอีกกว่า 10 ครั้ง โดยติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ตลอดไม่เคยเจอหน้าเลย ตนกับเชียร์จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้บิวฟังเพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะคิดว่าน่าจะถูกหลอก กระทั่งมาทราบว่า แนนนี่ และ กิ๊บซี่ วงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ ก็ถูกหลอกเช่นเดียวกัน โดยกรณีของแนนนี่ และกิ๊บซี่ เป็นไอแพด 2 ซึ่ง น.ส.อรทัยคงไม่คิดว่าพวกเราจะรู้จักกัน
ด้าน น.ส.ภัทรนันท์กล่าวว่า น.ส.อรทัยได้เข้ามาเสนอตนในกรณีเดียวกับการ์ตูน และเชียร์ โดยอ้างว่าเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศกำลังจะเดินทางกลับ สามารถซื้อสินค้าเข้ามาให้ได้ในราคาถูก ด้วยความที่ทำงานในวงการบันเทิงด้วยกัน ไม่คิดว่าจะถูกหลอก ตนจึงสั่งซื้อไอแพด 2 กับน.ส.อรทัย ในราคาเครื่องละ 28,000 บาท ตั้งแต่ยังไม่มีวางขายในประเทศไทย นอกจากนี้ ไม่ได้มีตนที่ถูกหลอกคนเดียว ยังมี กิ๊บซี่ (น.ส.วนิดา เติมธนาภรณ์) และน้องสาว รวมถึงโปรดิวเซอร์ก็สั่งซื้อไอแพด 2 ด้วย แต่ก็ไม่ได้รับสินค้าเช่นเดียวกัน ตอนแรกได้มีการพูดคุยกันว่าจะไม่เอาเรื่อง กระทั่งภายหลังมาทราบว่า มีดาราอีกหลายคนที่ถูกหลอกจึงประสานไปยังบริษัทที่ น.ส.อรทัย ทำงานอยู่ ซึ่งทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบ และให้ น.ส.อรทัย ออกจากงานแล้ว ก่อนที่เข้าแจ้งความ เพื่อไม่ให้ น.ส.อรทัย ไปกระทำความผิดโดยการหลอกลวงผู้อื่นอีก
“อยากฝากไปถึงเพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงประชาชนว่า อย่าไว้ใจหรือหลงเชื่อใครง่ายๆ แม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนที่รู้จักก็ตาม และอย่าเห็นแก่สินค้าราคาถูก เพราะจะถูกหลอกได้ง่าย อยากให้ซื้อสินค้าตามศูนย์ที่มีสินค้า และมีการรับประกัน เพราะนอกจากจะไม่ถูกหลอกแล้ว ยังได้สินค้าที่มีคุณภาพด้วย และคดีนี้หาก น.ส.อรทัย สามารถนำสินค้าหรือเงินมาคืนให้พวกตนก็พร้อมที่จะไม่เอาเรื่อง” น.ส.ฑิฆัมพร กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่งกล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และรวบรวมหลักฐานทั้งหมด อาทิ หลักฐานการโอนเงินและการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ จากนั้นจะติดต่อให้ น.ส.อรทัย เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หากไม่เดินทางมาก็จะออกหมายเรียก และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งหาก น.ส.อรทัยสามารถนำสินค้ามามอบให้กับผู้เสียหาย หรือคืนเงินให้ตามจำนวนที่ผู้เสียหายจ่ายไปก็สามารถเจรจายอมความกันได้ แต่หาก น.ส.อรทัย มีเจตนาที่จะหลอกลวงก็จะทำการแจ้งข้อหาฉ้อโกงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (19 พ.ค) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สน.ห้วยขวาง น.ส.ภัทรนันท์ ดีรัศมี อายุ 26 ปี หรือแนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่ น.ส.ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ หรือ เชียร์ อายุ 24 ปี และ น.ส.อินทิรา เกตุวรสุนทร หรือ การ์ตูน อายุ 24 ปี นักร้องนักแสดงชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง และ พ.ต.ท.สมคิด สมบูรณ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ห้วยขวาง หลังจากที่ทำการสั่งซื้อไอโฟน 4 และ ไอแพด 2 จาก น.ส.อรทัย ส่งเสริมรัตน์ อายุประมาณ 25-30 ปี พีอาร์ของบริษัทผลิตภาพยนตร์แห่งหนึ่ง แต่กลับถูกหลอกไม่ได้รับสินค้า รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดนับแสนบาท
จากการสอบถาม น.ส.อินทิราให้การว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากก่อนหน้านี้ ตนและเชียร์อยากที่จะซื้อไอโฟน 4 จึงได้มีการพูดคุยกับเพื่อนในวงการชื่อบิว จังหวะนั้น น.ส.อรทัย ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทผลิตหนังที่แนนนี่แสดงอยู่ก็รู้จักกับบิวเช่นกัน เมื่อ น.ส.อรทัยรู้ว่าพวกตนอยากซื้อไอโฟน 4 จึงเสนอตัวที่จะจัดหาสินค้ามาให้ในราคาที่ไม่แพงมากนัก โดยบอกผ่านบิวมาว่ามีเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศกำลังจะเดินทางกลับมาประเทศไทย สามารถซื้อและนำสินค้าเข้ามาได้ในราคาถูก ตนกับเชียร์จึงเชื่อใจและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยของ น.ส.อรทัย คนละ 15,000 บาท โดยเชียร์โอนเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนตนโอนไปตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
น.ส.อินทิรากล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้มีการนัดรับของกันช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อติดต่อไปยัง น.ส.อรทัยก็ได้รับคำตอบว่า เพื่อนที่จะนำสินค้ามาให้ยังไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ ตนจึงรอกระทั่งถึงเดือนเมษายน น.ส.อรทัยก็อ้างว่าติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากนั้นก็ผัดผ่อนไปอีกกว่า 10 ครั้ง โดยติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ตลอดไม่เคยเจอหน้าเลย ตนกับเชียร์จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้บิวฟังเพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะคิดว่าน่าจะถูกหลอก กระทั่งมาทราบว่า แนนนี่ และ กิ๊บซี่ วงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ ก็ถูกหลอกเช่นเดียวกัน โดยกรณีของแนนนี่ และกิ๊บซี่ เป็นไอแพด 2 ซึ่ง น.ส.อรทัยคงไม่คิดว่าพวกเราจะรู้จักกัน
ด้าน น.ส.ภัทรนันท์กล่าวว่า น.ส.อรทัยได้เข้ามาเสนอตนในกรณีเดียวกับการ์ตูน และเชียร์ โดยอ้างว่าเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศกำลังจะเดินทางกลับ สามารถซื้อสินค้าเข้ามาให้ได้ในราคาถูก ด้วยความที่ทำงานในวงการบันเทิงด้วยกัน ไม่คิดว่าจะถูกหลอก ตนจึงสั่งซื้อไอแพด 2 กับน.ส.อรทัย ในราคาเครื่องละ 28,000 บาท ตั้งแต่ยังไม่มีวางขายในประเทศไทย นอกจากนี้ ไม่ได้มีตนที่ถูกหลอกคนเดียว ยังมี กิ๊บซี่ (น.ส.วนิดา เติมธนาภรณ์) และน้องสาว รวมถึงโปรดิวเซอร์ก็สั่งซื้อไอแพด 2 ด้วย แต่ก็ไม่ได้รับสินค้าเช่นเดียวกัน ตอนแรกได้มีการพูดคุยกันว่าจะไม่เอาเรื่อง กระทั่งภายหลังมาทราบว่า มีดาราอีกหลายคนที่ถูกหลอกจึงประสานไปยังบริษัทที่ น.ส.อรทัย ทำงานอยู่ ซึ่งทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบ และให้ น.ส.อรทัย ออกจากงานแล้ว ก่อนที่เข้าแจ้งความ เพื่อไม่ให้ น.ส.อรทัย ไปกระทำความผิดโดยการหลอกลวงผู้อื่นอีก
“อยากฝากไปถึงเพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงประชาชนว่า อย่าไว้ใจหรือหลงเชื่อใครง่ายๆ แม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนที่รู้จักก็ตาม และอย่าเห็นแก่สินค้าราคาถูก เพราะจะถูกหลอกได้ง่าย อยากให้ซื้อสินค้าตามศูนย์ที่มีสินค้า และมีการรับประกัน เพราะนอกจากจะไม่ถูกหลอกแล้ว ยังได้สินค้าที่มีคุณภาพด้วย และคดีนี้หาก น.ส.อรทัย สามารถนำสินค้าหรือเงินมาคืนให้พวกตนก็พร้อมที่จะไม่เอาเรื่อง” น.ส.ฑิฆัมพร กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่งกล่าวว่า หลังจากนี้จะทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และรวบรวมหลักฐานทั้งหมด อาทิ หลักฐานการโอนเงินและการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ จากนั้นจะติดต่อให้ น.ส.อรทัย เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หากไม่เดินทางมาก็จะออกหมายเรียก และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งหาก น.ส.อรทัยสามารถนำสินค้ามามอบให้กับผู้เสียหาย หรือคืนเงินให้ตามจำนวนที่ผู้เสียหายจ่ายไปก็สามารถเจรจายอมความกันได้ แต่หาก น.ส.อรทัย มีเจตนาที่จะหลอกลวงก็จะทำการแจ้งข้อหาฉ้อโกงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป