"จารบุรุษ"
jaraburus@hotmail.com
00...ฮือฮากันทั้งเกาะภูเก็ต เมื่อ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผบก.ภูเก็ต ประกาศท้า อดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย เจ้าของฉายา"อีซ้ายทะลวงไส้" เขาทราย แกแล็คซี่ ขึ้นชกบนเวที ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ที่สนามมวยชั่วคราวโรงยิมสนามกีฬาสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อหารายได้ ช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องประสบอุทกภัยในพื้นที่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งทำให้บ้านเรือนราษฎรและทรัพย์สินเสียหายกว่า 39 ล้านบาท งานนี้มีกรรมการกิตติมศักดิ์อย่าง "นายตรี อัครเดชา" พ่อเมืองภูเก็ตเป็นกรรมการห้ามบนเวที ถือว่า"ผู้การ" ลงทุนเอาตัวและความเจ็บปวดเข้าแลก เพื่อประชาชนและลูกน้อง อีกอย่างเชื่อว่า"ผู้การพิกัด" คงมีเชิงมวยพอสมควร ไม่งั้นคงไม่กล้าท้าอดีตแชมป์โลกอย่าง"พี่ระ"เขาหรอก ส่วนพี่ระก็ไม่ต้องห่วง อดีตแชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใครเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดี จะห่วงก็แต่ ทั้งคู่อย่าเผลอไปซัดเปรี้ยงเข้าปลายคางทั่นผู้ว่าฯ เข้าล่ะ ไม่งั้น คงตัวใครตัวมันล่ะงานนี้...
หากพูดถึงพล.ต.ต.พิกัดแล้ว คงต้องขอเล่าย้อนไปนิดหนึ่ง ราวปลายเดือนก.ค.ปี 2553 ตัวผู้การต้องประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ ป้ายแดงปาดหน้า จนรถชนกัน ขณะกำลังจะไปรอต้อนรับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะไปประชุมพรรค จนได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเข่า เดินเหินไม่ได้ แพทย์ต้องดึงเส้นเอ็นที่บริเวณหัวเข่าซ้าย ซึ่งได้รับการกระแทกอย่างแรง ทำให้เกิดการแยกออกจากกัน แล้วเข้าเฝือกให้อยู่หลายวัน จนหายเป็นปกติ
ถัดมาเมื่อเดือนเม.ย.ที่เพิ่งผ่านมา พล.ต.ต.พิกัด โดนล้วงคองูเห่า ถูกคนร้าย ทุบกระจกบานเกล็ด ตัดเหล็กดัดออก แล้วงัดหน้าต่างเข้าไปในบ้าน เลขที่ 239/304 หมู่ 5 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านของ"ผู้การพิกัด"เอง ขนเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโพน 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค 1 เครื่อง ทองรูปพรรณ พระเครื่อง และที่สำคัญสร้อยคอทองคำพร้อมหลวงพ่อทวด เลี่ยมทอง รุ่นปี 2497 ของพล.ต.ต.พิกัด ที่เก็บไว้ในห้องนอน ซึ่งไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ไป ไม่รู้ว่าตอนนี้ ตามจับเจ้าวายร้ายได้หรือยัง
แต่อย่างไรก็ตาม "จารบุรุษ" ต้องขอชื่นชมในน้ำใจของพล.ต.ต.พิกัด ที่เป็นห่วงทั้งประชาชนและลูกน้อง ถึงกับลงทุนขันอาสา ขอฟาดปากกับ"เขาทราย"เอง เพื่อหาเงินมาเยียวยาผู้ประสบภัย ว่าแต่ว่า หากเจอ"อีซ้ายทะลวงไส้"ของเขาทรายไปซักหมัด ไม่รู้ว่า"พี่ระ"เราจะกลับออกจากภูเก็ตได้อย่างปลอดภัยหรือไม่(ฮา)...
00...เกือบกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวไปซะแล้วระหว่าง สำนักงานคณะกรรมกาารป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือป.ป.ท. กับสน.ห้วยขวาง บก.น.1 และบช.น. หลังจากที่นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการป.ป.ท. นำกำลังไปบุกจับ ร้านตู้เกมมินิแลนด์ บนชั้น 2 ห้างเอสพลานาด ถ.รัชดาภิเษก ท้องที่สน.ห้วยขวาง แต่หามีตำรวจไปร่วมจับกุมไม่ ต่างฝ่ายก็ต่างอ้างเหตุผลกันไปมาว่าใครผิดใครถูก ใครไม่ให้ความร่วมมือ สุดท้ายก็ทำความเข้าใจกันไปด้วยดี(หรือไม่) ทั้งสองฝ่าย
ว่ากันว่า ถนนรัชดาภิเษกในอดีตทั้งเส้น ครั้งคนมีสีเข้าไปควบคุมและดูแลผลประโยชน์นั้น เฉพาะ"ส่วย"เหล้าและบุหรี่เถื่อน ตกเดือนละไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท ปัจจุบันจะมีอย่างนั้นอีกหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ แต่ได้ยินได้ฟังมาอย่างนี้ว่า มีผกก.คนหนึ่ง เหยี่ยวข่าวตระเวณเรียกชื่อกันหลังว.(เหมือนหลังไมค์) ว่า "ผกก.ระยำ" พยายามที่จะวิ่งเต้นขอกลับมาใหญ่ที่สน.ห้วยขวางอีกครั้ง ในวงเงินราว 10 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังไป "เท็จจริง"อย่างไร ไปถามไถ่กันเอาเอง แต่"ข้อจริง" ที่ว่าก็คือ ถ้ากล้าลงทุนถึง 10 ล้านบาท นั่นย่อมหมายความว่า ผลประโยชน์ทั้งเทาและดำย่อมมีค่ามากกว่านั้น...
00...กระซิบกระซาบกันมาเบาๆว่า เดี๋ยวนี้ สืบโรงพัก จะทำงานแกะรอยคนร้ายแต่ละคดี ทุกอย่างต้อง"ปิดตาย" หมายความว่า ห้ามบันทึกอะไรลงในแฟ้มเด็ดขาด ไม่งั้นเดี๋ยวหน่วยงานที่ใหญ่กว่า จะมาหอบเอาข้อมูลไปจัดการเสียเองหมด พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ มาฉกผลงานไปเอาหน้ากันนั่นแหละ แต่ถ้ามาแบบพี่แบบน้อง เข้ามาขอข้อมูลกันดีๆ ก็ย่อมได้อยู่แล้ว นี่เล่นเอาแฟ้มข้อมูลที่สืบเสาะกันมาแทบเป็นแทบตายไปถ่ายเอกสารกันยกแฟ้ม อย่างนี้ขวัญกำลังใจมันหายเกลี้ยง วาน"บิ๊กแป๊ะ"พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กำชับหน่อยก็ดี สืบโรงพักจะตายหมดแล้ว สวัสดี...
