เลือกตั้งคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) โค้งสุดท้ายคึกคัก ผู้สมัครใช้วิธีส่งเอสเอ็มเอส ไปรณีย์บัตร ขอคะแนนอัยการทั่วประเทศ จับตาทีม “ร.ท.มนัส อุบลทิพย์” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก “จุลสิงห์ วสันตสิงห์ อสส.”
วันนี้ (14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเลือกตั้งคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 6 คน ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 ม.18 (3) ซึ่งเป็นอัยการตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจำนวน 3 คน และในส่วนของข้าราชการบำนาญอีก 3 คน หลังคณะกรรมการควบคุมการส่งบัตร ได้ทำการคละบัตรไม่จัดเลขตามหมายเลขจัดส่งบัตร ให้แก่อัยการทั่วประเทศที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกจำนวน 3,074 คน ซึ่งเป็นข้าราชการอัยการชั้น 2 ขึ้นไป จนถึงอัยการอาวุโสแล้ว ปรากฏว่าอัยการที่ประสงค์ได้รับลงคะแนนทำการหาเสียงอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้าย โดยมีการส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอส ทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อแนะนำตัวและขอคะแนนเสียง จัดส่งไปรณีย์บัตรไปตามที่อยู่เพื่อโปรโมทนโยบายของแต่ละทีม ร่วมทั้งผู้ให้การสนับสนุนและทีมได้ทำหนังสือสนับสนุนและขอคะแนนเสียงให้ฝ่ายตนเองด้วย
ที่น่าจับตาคือ ทีมของ ร.ท.มนัส อุบลทิพย์ รองอัยการสูงสุดลำดับที่ 5 ซึ่งประกอบไปด้วย นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดียาเสพติด นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อธิบดี ก.อ. นายบดินทร์ เยี่ยมสมบัติ อดีต รอง อสส. อัยการบำนาญ นายดิเรก สุนทรเกตุ และนายมนูญ จรูญพร อัยการบำนาญ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อสส.
และทีมของนายสัตยา อรุณธารี ผู้ตรวจราชการอัยการ ซึ่งประกอบไปด้วย นายเรวัต จันทร์ประเสริฐ อธิบดีอัยการฝ่ายคดียาเสพติด นายประสาน หัตถกรรม อัยการอาวุโส นายดิเรก สุนทรเกตุ อัยการบำนาญ นายวิทยา ปัตตพงษ์ อดีตรอง อสส. อัยการบำนาญ และนายบดินทร์ เยี่ยมสมบัติ อัยการบำนาญ ได้รับการสนับสนุนจากนายอรรถพล ใหญ่สว่าง รอง อสส. ซึ่งชูนโยบายเปิดคิวอาวุโสให้ทราบตั้งแต่เริ่มเป็นอัยการ และเปิดโผการแต่งตั้งโยกย้ายให้ทราบล่วงหน้า เพื่อมีเวลาเตรียมตัวทำงาน นอกจากนี้ยังมีนายประสิทธิ์ ปทุมารัตน์ อัยการอาวุโส ที่เป็นผู้สมัครอิสระที่อาจเป็นตัวสอดแทรกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเลือก ก.อ.ทั้ง 6 คนได้แล้วก็จะได้ ก.อ.ชุดใหม่ ครบ 15 คน คือ นายจุลสิงห์ อสส. เป็นประธาน ก.อ.โดยตำแหน่ง นายอนุชาติ คงมาลัย นายถาวร พานิชพันธ์ นายสีมา วรรณโกวิท และนายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รอง อสส.อันดับที่ 1-4 เป็น ก.อ.โดยตำแหน่ง ไปรวมกับ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับเลือกจากวุฒิสภา 2 คนและ ก.อ.ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอีก 1 คน
