ดีเอสไอหอบรายงานถอดเทป 9 แกนนำ นปช. ปราศรัยส่อหมิ่นสถาบัน ส่งให้อัยการเพิ่มเติม คาดไม่เกินสัปดาห์หน้าอัยการจะมีความเห็นได้ หากเข้าข่ายจะยื่นให้ศาลตัดสินว่าถอนประกันได้หรือไม่ ขณะที่อัยการจะต้องชี้ให้เห็นถึงเจตนาแกนนำ นปช. จากพยานหลักฐานที่ปรากฏด้วย
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้อำนวยการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เพื่อส่งมอบคำถอดเทปการปราศรัยเพิ่มเติมของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกแกนนำ นปช.ที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันก่อการร้าย รวม 9 คน ในคดีร่วมกันก่อการร้าย ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้ร่วมตรวจสอบโดยเปรียบเทียบคำถอดเทปการปราศรัยและการให้สัมภาษณ์แถลงข่าวของแกนนำ นปช. เมื่อวันที่ 7 และ 10 เม.ย.54 ตามสำนวนของดีเอสไอที่ขอให้พิจารณาเรื่องถอนการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วพบว่าคำถอดเทปบางช่วงบางตอน ข้อความไม่ต่อเนื่องกัน จึงให้ดำเนินการถอดเทปโดยละเอียด
ขณะที่ นายรุจ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 กล่าวว่า อัยการได้ตรวจคำถอดเทปทั้งของดีเอสไอที่ส่งมาครั้งแรก และที่กลุ่มแกนนำ นปช.ส่งเข้ามาในการร้องขอความเป็นธรรมแล้วทั้งสองฝ่าย แต่พบว่าข้อความของดีเอสไอที่ถอดเทปมานั้นบางตอน ข้อความขาดหายไปเช่น 5 หรือ 10 วินาที จึงทำให้ข้อความไม่ต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่ได้พิจารณาถ้อยคำทั้งหมดอาจทำให้คลาดเคลื่อนและไม่เห็นเจตนาในการพูด ซึ่งขณะนี้อัยการได้ดูรายงานที่ดีเอสไอส่งมาใหม่แล้วก็ได้เติมเต็มข้อความที่เคยส่งมาในครั้งแรกส่งได้ครบถ้วนแล้ว โดยอัยการจะได้อ่านทบทวนข้อความทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อพิจารณาพฤติการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจตนาของแกนนำ นปช. ในการปราศรัย ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าอัยการจะมีความเห็นได้
ส่วนที่จะพิจารณาถอนประกันได้ทั้งหมดหรือไม่ นายรุจ กล่าวว่า ต้องดูที่ดีเอสไอ ระบุว่าแกนนำ นปช. ทั้ง 9 คนร่วมกันนั้น ขณะเวลาที่เกิดเหตุแต่ละคนพูดอะไร ทำอะไร ซึ่งบางคนอาจขึ้นพูดบนเวที 5 นาทีแล้วลง ซึ่งหากบุคคลนั้นไม่ได้พูดลักษณะยุยุง หรือกล่าวพาดพิงสถาบันที่ไม่ได้กระทบต่อความมั่นคงก็ชัดเจนว่าไม่ถอนประกัน แต่ถ้าพฤติการณ์ร่วมกันปราศรัย รู้เห็นการกระทำที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขก็ต้องยื่นให้ศาลใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่าถอนประกันได้หรือไม่ เพราะสุดท้ายศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ขณะที่อัยการต้องชี้ให้เห็นถึงเจตนาแกนนำ นปช.จากพยานหลักฐานที่ปรากฏ
อัยการพิเศษฝ่ายพิเศษ 1 กล่าวด้วยว่า การกล่าวพาดพิงสถาบัน แม้จะไม่ชัดเจนพูดยุยุงให้ประชาชนเกิดความกระด้างกระเดื่อง แต่กล่าวแล้วกระทบสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ ขณะที่การกำหนดเงื่อนไขการประกันตัวของศาลเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ลดความขัดแย้งแตกแยก แล้วถ้าวันนี้พบว่ามีพฤติการณ์ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกแบ่งแยก ก็เพียงพอจะมองเห็นเจตนานั้นได้
ด้าน พ.ต.ท.ถวัล กล่าวว่า การยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ให้อัยการวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะได้มาจากทั้งฝ่ายทหารและตำรวจ รวมถึงยังมีการสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม คือ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ปฏิบัติหน้าที่และได้รับฟังการปราศรัยของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 9 คน ในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาด้วย