ตำรวจตามจับกุมมือฆ่าสาวโรงงาน ด้วยการแทงยับไม่ต่ำกว่า 17 แผล กลายเป็นศพภายในโรงแรม รับสารภาพ ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายหญิงขอกลับไปทำงาน แต่เจ้าตัวยังไม่สมอารมณ์หมาย จึงชักมีดออกมาแทงยับดับความโมโห
วันนี้ (26 เม.ย.) พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย พวงสมบัติ ผกก.สภ.คูบางหลวง นำกำลังจับกุม นายชาคริต หรือ ต้อง สุภาพ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยจับกุมได้ที่บริเวณร้านเกม ซอยใจเอื้อ ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ทั้งนี้ เมื่อเย็นวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบศพ นางอารีย์พร หรือ เบิร์ด ทองมาลัย อายุ 29 ปี สภาพถูกแทงด้วยของมีคมที่คอและลำตัว รวม 17 แผล เสียชีวิตภายในห้องพักหมายเลข 56 โรงแรมกรีนวิลล์ รีสอร์ท เลขที่ 45 หมู่ 6 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุของคดีฆาตกรรมครั้งนี้ น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจาก นางอารีย์พร เคยมีสามีมาแล้ว 2 คน โดยก่อนเกิดเหตุมีพยานพบเห็น นายชาคริต ชายหนุ่มที่มาติดพัน นางอารีย์พร ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปรับที่หน้าโรงงานแห่งหนึ่ง เพื่อไปเข้าพักในโรงแรมที่เกิดเหตุ แต่ระหว่างนั้นเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนจะถูกสังหารโหดดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายชาคริต ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายชาคริต หลบหนีไปอาศัยอยู่กับนางวันเพ็ญ หรือ ผึ้ง สำลีปั้น ภรรยาคนใหม่ ที่หอพักในพื้นที่ ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว และยังไปพักอาศัยอยู่กับญาติของนางวันเพ็ญ จึงนำกำลังเฝ้าติดตามและจับกุม ได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ได้ไปรับ นางอารีย์พร มาร่วมหลับนอนที่โรงแรมดังกล่าว แต่ยังไม่สำเร็จความใคร่ ฝ่ายหญิงก็ขอตัวกลับ เนื่องจากต้องรีบไปทำงาน จึงได้มีปากเสียงกัน ด้วยความโมโหจึงนำมีดที่ติดตัวมาจ้วงแทง นางอารีย์พร จนเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นได้นำอาวุธมีดไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะนั้น ขอยืมมาจากพี่ชาย นางวันเพ็ญ และนำกลับไปคืนเจ้าของแล้ว สำหรับทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย สร้อยคอ แหวน และ ต่างหูทองคำ ได้นำไปขายที่ร้านทองย่านถนนสรงประภา เขตดอนเมือง กทม.เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในการหลบหนีคดี ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง สภ.คูบางหลวง ดำเนินคดีต่อไป
อีกรายจับกุม นายชานุ วงษ์หมี อายุ 28 ปี รปภ.ของบริษัท ยูเอ็นการ์ด เซอร์วิส จำกัด ได้ที่บ้านพักของเพื่อนตลาดบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ ผ่านมา นายชานุ ได้ใช้ขวดเหล้าและกระบองยางตี นายสมศักดิ์ ลำพา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี อาชีพเป็น รปภ.ด้วยกันจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่ส่งกุลอพาร์ทเม้นท์เลขที่ 3/5 ม.2 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า สาเหตุมาจากเรื่องผู้ตายเปิดเพลงเสียงดัง และยังหาว่าตน และนายทวี คุยกันเสียงดังผู้ตายจึงไม่พอใจเปิดเพลงเสียงดังรบกวนทำให้มีปากเสียงกันและทำร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งนำส่งพนักงานงานสอบสวน สภ.บางคูหลวงดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป