สาวโชว์เต้าเต้นยั่วยวนย่านวุฒากาศ อ้างมึนเมาถูกคนยุให้ทำ ไม่มีเจตนา หรือใครว่าจ้าง ยอมรับเคยไปเที่ยวผับฟูลมูน แต่ไม่เคยเต้นโชว์เปลือย ปัดวัยรุ่นสาวเต้นโชว์สีลมไม่ใช่พวกตัวเอง รับรู้จักกันเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.เฉลิมชัย ปานพิทักษ์พันธ์ ผกก.สน.ตลาดพลู เปิดเผยถึงกรณีคลิปสาววัยรุ่นโชว์เปลือยอกและเต้นยั่วยวน บริเวณริมถนนวุฒากาศ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี หญิงสาวในคลิปได้ 1 คน แล้ว โดยติดตามตัวได้ที่ชุมชนแห่งหนึ่งย่านบางขุนเทียน จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ตลาดพลู ซึ่งจากการสอบสวน ด.ญ.น้ำ ให้การรับสารภาพว่า ได้เต้นโชว์ในวันดังกล่าวจริง โดยสาเหตุที่ทำไป เพราะว่ามึนเมาและถูกคนยั่วยุ โดยในวันดังกล่าวได้ไปเที่ยวเล่นน้ำกับเพื่อนในวันสงกรานต์ จนกระทั่งมาถึงถนนวุฒากาศ เห็นคนเล่นน้ำกันเยอะท่าทางน่าสนุก จึงปักหลักเล่นสาดน้ำ และเต้นตามจังหวะเสียงเพลงอยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นมีคนแถวนั้นนำเหล้ามาให้กิน จนกระทั่งเริ่มมึนเมา ประกอบกับชาวบ้านแถวนั้นยุให้ถอดเสื้อเต้น ซึ่งตนไม่มีเจตนา และไม่มีใครว่าจ้าง ที่ทำไปเพราะว่าเมาและถูกยั่วยุ แต่ก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ถ่ายคลิป และนำมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ข้อหาผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ก่อนปล่อยตัวกลับไป
พ.ต.อ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า จากการสอบถาม ด.ญ.น้ำ ยังให้การด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ก็เคยไปเที่ยวผับฟูลมูนด้วย แต่เป็นการไปเที่ยวเฉยๆ ไม่ได้ขึ้นเต้นโชว์แต่อย่างใด ส่วนกลุ่มวัยรุ่นสาวที่เต้นโชว์เปลือกอกย่านสีลมนั้น ไม่ใช่พวกตนแน่นอน แต่ก็รู้จักกันเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ส่วนหญิงสาวที่ถอดเสื้อเปลือยอกเต้นโชว์อยู่ในคลิปอีกคนนั้น ยอมรับว่า รู้จักกัน แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ โดยจะประสานญาติให้ติดตามตัวมาเปรียบเทียบปรับต่อไป ส่วนกรณีที่มีเสียงชายคนหนึ่งพูดในคลิปว่า “การแสดงจบแล้ว หมดรอบๆ” นั้น จากการสอบถาม ด.ญ.น้ำ ก็ไม่ยอมให้การใดๆ ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ เพื่อติดตามรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
“เรื่องดังกล่าวสาเหตุเพราะว่าเด็กได้หลงผิด ประกอบอยู่ในอาการมึนเมา และถูกยั่วยุ ซึ่งผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาเด็กในเรื่องนี้ ควรมีหน่วยงานเข้ามาฝึกอบรมเด็ก ส่งเสียให้เด็กเรียนหนังสือ ทำประโยชน์ต่อสังคม ดีกว่าหลงผิด และกระทำการดังกล่าวซ้ำอีก ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันป้องกันก่อนที่จะเป็นปัญหาสังคมต่อไป” พ.ต.อ.เฉลิมชัย กล่าว