ผบ.ตร.สั่งทุกหน่วยทบทวนการปฏิบัติในการป้องกันเหตุการณ์ สกัดกั้นคนร้าย-จี้ตัวประกัน หวั่นกลัวซ้ำรอยเหตุหนุ่มคลั่งจี้แพทย์สาวเป็นตัวประกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน
จากกรณีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ และโชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีเสียชีวิต พร้อมทั้งได้ขโมยรถยนต์ และขับหลบหนีไปพร้อมกับตัวประกัน ก่อนที่คนร้ายจะถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมจนเสียชีวิต และตัวประกันได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในครั้งนี้
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.จึงมีคำสั่ง ตร.ด่วนที่สุดที่ 0007.33(นผ.)/50 ลงวันที่ 20 เม.ย.2554 ถึง รองผบ.ตร.ผู้ช่วย ผบ.ตร. หน.ฝอ.ศปก.ตร. ผบช.น. ผบช.ภ.1-9 ผบช.ศปก.ตร. ผบช.ก.และ ผบช.ตชด.โดยคำสั่งดังกล่าวมีใจความว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงกำชับให้มีการปฏิบัติ ดังนี้ 1.ให้ทบทวนการปฏิบัติทางยุทธวิธีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติในการป้องกันเหตุการณ์ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยาม การสกัดจับ การสกัดกั้นคนร้าย การปฏิบัติกรณีจับกุมตัวประกัน และการบริหารสถานการณ์วิกฤต เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ปฏิบัติงานให้ดำเนินการตามแผนรักษาความสงบ
2.ให้ดำเนินการซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของหน่วย โดยให้มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับทราบบทบาท และหน้าที่อย่างชัดเจน ตลอดจนให้มีการซักซ้อมการปฏิบัติโดยสม่ำเสมอ และให้มีความพร้อมที่จะสามารถปฏิบัติการหรือแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที 3.สำหรับการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชาการเหตุการณ์หรือผู้ควบคุมการปฏิบัติจะต้องสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการปฏิบัติทางยุทธวิธีให้มีการมอบหมายหน้าที่ให้ชัดเจนและปฏิบัติเฉพาะผู้มีหน้าที่เท่านั้น
4.ให้ทบทวนการรับแจ้งเหตุกระจายข่าว การติดต่อสื่อสาร การควบคุมสั่งการและการรายงานเหตุให้เกิดความรวดเร็ว สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5.สำหรับการใช้อาวุธจะต้องมีการสั่งการ ควบคุมอย่างชัดเจน และผู้ที่มีอาวุธจะต้องรักษาวินัยในการใช้อาวุธ และกฎแห่งความปลอดภัยโดยเคร่งครัด และ 6.สำหรับการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติของกำลังพลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ ตร.อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ ซึ่งจะได้สั่งการต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบทุกระดับตรวจสอบ ติดตาม ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติของหน่วยอย่างเคร่งครัด
